ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - มวลน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิง ทะลักท่วมโรงเรียน อ.โชคชัย โคราช เพิ่มสูงต่อเนื่อง ระดมทำพนังกั้นน้ำป้องกันอาคารเรียน ขณะกรมอุตุฯ ประกาศเตือนพายุลูกใหม่จ่อถล่มอีสานหนักแน่ 17-18 ต.ค.นี้ โคราชส่ออ่วมหลังเขื่อนใหญ่-กลาง และลำคลองส่วนใหญ่น้ำเต็มปริ่มแล้ว
วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีน้ำจากลำสำลาย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของลำพระเพลิงที่รับน้ำมาจากเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมโรงเรียนบ้านกอกวิทยา ต.พลับพลา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ต้องสั่งปิดโรงเรียนอย่างไม่มีกำหนด ล่าสุด วันนี้ปริมาณน้ำและระดับน้ำท่วมยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และท่วมพื้นที่ขยายวงกว้างเกือบทั่วทั้งโรงเรียนแล้ว
นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย นายอำเภอโชคชัย ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้หาทางเร่งระบายมวลน้ำออกจากโรงเรียนเป็นการเร่งด่วน ด้วยการเพิ่มการเจาะกำแพงด้านล่างเพื่อให้น้ำไหลออกจากตัวโรงเรียนได้รวดเร็วขึ้น ขณะที่ พ.ต.อ.สุรจิตร์ วิวรรธน์สมบัติ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โชคชัย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจิตอาสาจำนวน 15 นาย เข้าช่วยผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่กรอกกระสอบทราย และนำไปปิดกั้นตามอาคารเรียนและสิ่งปลูกสร้างทั่วทั้งโรงเรียน เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมตัวอาคารที่จะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ขณะที่ยังคงมีปริมาณน้ำไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และยังไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงภายในวันนี้
สำหรับสาเหตุของการเกิดน้ำท่วมโรงเรียนบ้านกอกวิทยาในครั้งนี้ เนื่องจากลำน้ำลำสำลาย ซึ่งเป็นหนึ่งในลำน้ำสาขาของลำพระเพลิง ที่รับน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิง และพื้นที่อำเภอปักธงชัย ซึ่งขณะนี้เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีน้ำปริมาณมากถึง 147 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 95% ของความจุ 155 ล้าน ลบ.ม. จึงจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากเขื่อน จึงส่งผลให้เกิดผลกระทบน้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อนทั้ง เขต อ.ปักธงชัย ต่อเนื่องลงมายัง อ.โชคชัย มวลน้ำที่ไหลลงมาตามลำสำลาย จึงล้นตลิ่งเข้าท่วมโรงเรียนดังกล่าว
ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน เรื่อง พายุดีเปรสชัน (ระดับ 2) ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง วันที่ 15 ต.ค.2563 คาดว่าจะทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อน (ระดับ 3) และเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วง 17-18 ต.ค.2563 นี้ จะทำให้พื้นที่อีสาน ภาคกลางและภาตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและป่าไหลหลากได้
โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา ขณะนี้อ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ 4 แห่ง และขนาดกลางอีก 23 แห่ง รวม 27 แห่ง ของจังหวัด และลำคลองตามธรรมชาตินั้น ส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำเต็มปริ่มเกือบทั้งหมดแล้ว โดยมีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเกินความจุหรือมากกว่า 100% ของความจุ จำนวน 8 แห่ง มีปริมาณน้ำ 80-100% จำนวน 5 แห่ง และมีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของความจุเพียง 1 แห่ง จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่ราบลุ่มต่ำบริเวณลำน้ำ ทั้ง 3 ลุ่มน้ำหลัก คือ ลุ่มน้ำลำตะคอง ลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำลำเชียงไกร และพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมาก
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จ.นครราชสีมา โดยภาพรวมล่าสุด ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครราชสีมา รายงานว่า จากเดิมที่มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 7 อำเภอ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากช่อง อ.โชคชัย อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.โนนไทย และยังคงมีน้ำท่วมอยู่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ปักธงชัย อ.โนนสูง และ อ.พิมาย รวม 12 ตำบล 29 หมู่บ้าน เดือดร้อน 342 ครัวเรือน
ทั้งนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์พยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทันท่วงที โดยได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการให้อยู่พร้อมปฏิบัติงานเพื่อเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์พร้อมช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
