ผู้จัดการรายวัน360-“บิ๊กตู่”เตือนประชาชน พายุลูกใหม่มีกำลังแรง ให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระมัดระวังการเดินทาง ดูแลชีวิตและทรัพย์สิน กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนฝนถล่ม 14-15 ต.ค.นี้ “เกษตร”ตั้งวอร์รูปติดตามความเสียหาย 24 ชั่วโมง รักษาการผู้ว่าอุบลฯ แจ้ง 25 อำเภอระวังน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์สภาพอากาศ จังหวัด และการบรรเทาสาธารณภัย เตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูกใหม่ที่คาดว่ามีกำลังแรง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและกระทบต่อประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน หากพื้นที่ใดคาดว่าจะได้ผลกระทบรุนแรงให้รีบแจ้งเตือน เช่น การยกสิ่งของขึ้นพื้นที่สูง หรือเตรียมอพยพหากจำเป็น เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัญจร หากไม่จำเป็นเร่งด่วน
“นายกฯ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลได้เฝ้าระวังและสั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ขณะนี้พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) ในวันที่ 12 ต.ค. มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าผ่านเกาะไหหลำ เข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 14–15 ต.ค.2563 จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นในบริเวณด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้จัดตั้งวอร์รูม เพื่อรายงานสถานการณ์เร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะทำหน้าที่รายงาน แจ้งเตือน รวมถึงออกมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันความเสียหาย และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ต่อประชาชน เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงทั้ง 25 อำเภอของจังหวัด ให้ติดตามสถานการณ์พายุระดับ 3 โซนร้อน หลิ่นฟา แม้จะลดกำลังลง แต่ยังส่งผลให้ฝนตกหนักบางพื้นที่ และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จึงให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยทุกหน่วยเตรียมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม่น้ำมูล ยังปรับตัวสูงขึ้นจากน้ำเหนือไหลมาสมทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เพชรบุรี ล่าสุด คันดินที่อยู่บริเวณแม่น้ำเพชรบุรีได้แตก ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมือง ทำให้บ้านเรือนกว่า 80 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ โดยทหารจากมณฑลทหารบกที่ 15 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกุ่ม เร่งนำกระสอบทรายไปซ่อมแซมเป็นการชั่วคราวแล้ว
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์สภาพอากาศ จังหวัด และการบรรเทาสาธารณภัย เตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูกใหม่ที่คาดว่ามีกำลังแรง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและกระทบต่อประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน หากพื้นที่ใดคาดว่าจะได้ผลกระทบรุนแรงให้รีบแจ้งเตือน เช่น การยกสิ่งของขึ้นพื้นที่สูง หรือเตรียมอพยพหากจำเป็น เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัญจร หากไม่จำเป็นเร่งด่วน
“นายกฯ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลได้เฝ้าระวังและสั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ขณะนี้พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) ในวันที่ 12 ต.ค. มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าผ่านเกาะไหหลำ เข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 14–15 ต.ค.2563 จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นในบริเวณด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้จัดตั้งวอร์รูม เพื่อรายงานสถานการณ์เร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะทำหน้าที่รายงาน แจ้งเตือน รวมถึงออกมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันความเสียหาย และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ต่อประชาชน เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงทั้ง 25 อำเภอของจังหวัด ให้ติดตามสถานการณ์พายุระดับ 3 โซนร้อน หลิ่นฟา แม้จะลดกำลังลง แต่ยังส่งผลให้ฝนตกหนักบางพื้นที่ และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จึงให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยทุกหน่วยเตรียมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม่น้ำมูล ยังปรับตัวสูงขึ้นจากน้ำเหนือไหลมาสมทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เพชรบุรี ล่าสุด คันดินที่อยู่บริเวณแม่น้ำเพชรบุรีได้แตก ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมือง ทำให้บ้านเรือนกว่า 80 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ โดยทหารจากมณฑลทหารบกที่ 15 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกุ่ม เร่งนำกระสอบทรายไปซ่อมแซมเป็นการชั่วคราวแล้ว