ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวบ้านแห่ลุ้นน้ำเขื่อนลำพระเพลิงจ่อล้นสปิลเวย์ ผู้ว่าฯ โคราชเรียกถกด่วน หลังน้ำเขื่อนพุ่ง 149 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 95% ของความจุ ยันตัวเขื่อนแข็งแรงเอาอยู่ สั่ง ปภ.ทำคันกั้น 600 เมตรสกัดเข้าท่วมตัวเมืองปักธงชัย พร้อมเร่งระบายน้ำรอรับพายุลูกใหม่ ทำท่วมปักธงชัยอ่วมแล้ว 3 ตำบล เดือดร้อนนับพัน
วันนี้ (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจำนวนมากพากันขึ้นไปสังเกตการณ์ปริมาณน้ำบริเวณสันเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กันตลอดทั้งวัน หลังจากที่ปริมาณน้ำภายในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดเกือบล้นสปิลเวย์ หรือช่องระบายน้ำฉุกเฉินแล้ว โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างกังวลใจว่าหากน้ำล้นออกมาจากเขื่อนลำพระเพลิงจะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนและผลผลิตทางการเกษตรอย่างหนัก
ล่าสุดเขื่อนลำพระเพลิงมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 149 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 95 ของความจุกักเก็บน้ำทั้งหมดที่ 155 ล้าน ลบ.ม. โดยเฉพาะในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากถึง 6.3 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำลงสู่คลองธรรมชาติท้ายเขื่อนเฉลี่ยวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่งคลองน้ำท้ายเขื่อนเข้าท่วมถนน พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หลายตำบลของ อ.ปักธงชัย เช่น ตำบลตะขบ ตำบลบ่อปลาทอง และตำบลตูม เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่เป็นการท่วมพื้นที่การเกษตร ส่วนบ้านเรือนราษฎรยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งออกให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยการนำกระสอบทรายไปกั้นในจุดที่น้ำล้นตลิ่งเพื่อบรรเทาความเสียหายในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะยังคงมีแนวโน้มว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่อีก
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมารายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ว่ามีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมรวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 92 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน 749 คน
ประกอบด้วย ระดับน้ำคลองธรรมชาติลำเชียงสา ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่ที่ 5, 1 ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 38 ครัวเรือน อพยพจำนวน 4 ราย (พักบ้านญาติ) ถนน สิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 409 คน
สำหรับระดับน้ำที่ไหลลงเขื่อนลำพระเพลิงเอ่อท่วมหมู่ที่ 3 ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 6 ครัวเรือน ถนน สิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 100 คน ระดับน้ำทรงตัว โดยน้ำจะไหลไปที่ลำน้ำมูลในพื้นที่ อ.โชคชัย
และปริมาณน้ำที่ระบายจากท้ายเขื่อนลำพระเพลิง ระบายน้ำผ่านคลองธรรมชาติ เอ่อท่วมทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.บ่อปลาทอง อ.ปักธงชัย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 48 ครัวเรือน ถนน สิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 240 คน ระดับน้ำประมาณ 1 เมตร ระดับน้ำทรงตัว โดยน้ำจะไหลไปที่ลำน้ำมูลในพื้นที่ อ.โชคชัย
ขณะที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมด่วนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งชลประทานจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ปกครองจังหวัด และ นายอำเภอปักธงชัย เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำพระเพลิง ที่เร่งระบายลงท้ายเขื่อนเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุดและไม่ให้กระทบต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจในตัวเมืองปักธงชัย โดยมอบหมายให้ทาง ปภ.จังหวัดฯ ดำเนินการทำคูน้ำขนาดใหญ่เพื่อกั้นและเบี่ยงเส้นทางน้ำให้ออกไปจากตัวเมืองปักธงชัย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขื่อนลำพระเพลิงปัจจุบันมีปริมาณน้ำมากถึง 95% ของความจุ ต้องเร่งพร่องน้ำออกเพื่อรองรับน้ำใหม่จากพายุลูกใหม่ที่อาจเข้ามา ไม่เช่นนั้นจะทำให้การบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำพระเพลิงเป็นไปด้วยความลำบาก แต่ยืนยันโครงสร้างของเขื่อนลำพระเพลิงยังแข็งแรงมั่นคง สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ด้าน นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย กล่าวว่า มีพื้นที่ท้ายเขื่อนลำพระเพลิงได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำลงสู่คลองสาขา ทำให้เกิดน้ำท่วมสะพานทางเข้า-ออก พื้นที่หมู่ 6 ต.บ่อปลาทอง สูงประมาณ 80 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ทำให้ชาวบ้าน 48 ครัวเรือนถูกตัดขาด รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือ นอกจากนี้ บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงสา ตำบลสะแกราช พบน้ำล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 17 ทำให้ประชาชน 35 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม 40-50 เซนติเมตร
