ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชาว รพ.ขอนแก่นฮึดสู้อีกรอบค้านคำสั่งย้าย “หมอชาญชัย” ไป รพ.ร้อยเอ็ด เผยบุคลากรเสียขวัญ สิ้นหวัง หมดศรัทธาการบริหารงานกระทรวง ไร้ธรรมาภิบาล ขณะที่ ผอ.ใหม่จากบึงกาฬไม่มีใครต้าน แต่ธรรมเนียมปฏิบัติ บริหาร รพ.ใหญ่ต้องอาศัยคนมีประสบการณ์สูง
วันนี้ (12 ต.ค.) เวลาประมาณ 12.15 น. บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลขอนแก่น แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกแผนก รวมถึงพี่น้องชาวขอนแก่นจำนวนหนึ่งได้นัดรวมตัวแสดงพลังจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งโยกย้าย (คำสั่ง ณ วันที่ 9 ต.ค. 63) นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม การพิจารณาย้ายครั้งนี้ไม่มีความเป็นธรรมาภิบาล
เนื่องจาก นพ.ชาญชัยเพิ่งเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่ง ผอ.รพ.ขอนแก่นในช่วงเช้าวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา กลับต้องเจอกับคำสั่งย้ายซ้ำจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขในตอนบ่ายวันเดียวกันให้ไปเป็น ผอ.รพ.ร้อยเอ็ด สร้างความงุนงงต่อตัว นพ.ชาญชัยและบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ รพ.ขอนแก่นเป็นอย่างมาก เป็นคำสั่งย้ายข้าราชการที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีเจตนากลั่นแกล้ง นพ.ชาญชัย
ทั้งนี้ ในระหว่างรวมตัวแสดงจุดยืนปกป้องธรรมาภิบาลกระทรวงสาธารณสุขและเรียกร้องความเป็นธรรมคืนให้ นพ.ชาญชัยนั้น ได้มีการร้องเพลง ความฝันอันสูงสุด พร้อมตะโกนว่า SAVE ธรรมาบาล, SAVE หมอชาญชัย
พญ.รักฝัน สวัสดิ์พานิช ประธานองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางองค์กรแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ สหสาขาวิชาชีพ โรงพยาบาลขอนแก่น มารวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืน รู้สึกถึงความไม่ชอบธรรมต่อคำสั่งด่วนโยกย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ในช่วงบ่ายวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งที่ช่วงเช้ายังมีพิธีต้อนรับ แต่ช่วงบ่ายกลับมีคำสั่งโยกย้ายไปโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ทำให้บุคลากรทางการแพทย์รู้สึกงง สับสนกับคำสั่งโยกย้ายครั้งนี้
สถานการณ์โรงพยาบาลขอนแก่นช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเกิดวิกฤตทั้งทางการเงิน และการบริหาร เฉพาะด้านการเงินโรงพยาบาลมีสถานะติดลบกว่า 80 ล้านบาท ช่วงนั้นได้ขอคำปรึกษาจาก นพ.ชาญชัย ในลักษณะไม่เป็นทางการ โดยท่านแนะนำให้จัดการปิดรอยรั่วต่างๆ ที่สำคัญให้ตั้งคณะกรรมการด้านการเงินขึ้นมาช่วยดูแล จนกระทั่งเมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาโรงพยาบาลขอนแก่นได้พลิกสถานการณ์ทางการเงินจากติดลบมาเท่าทุน ซึ่งแสดงถึงความสามารถของ นพ.ชาญชัย เป็นผู้บริหารที่มีความสามารถ แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ บทบาทการบริหารของ นพ.ชาญชัยในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ได้แสดงถึงความรู้ความสามารถในด้านการบริหารงานโรงพยาบาลขอนแก่นได้เป็นอย่างดี ทำให้โรงพยาบาลพัฒนารุดหน้าไปมาก จากโครงสร้างการบริหารที่ซับซ้อนก็สามารถบริหารทำงานได้รวดเร็ว มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้น ล้วนเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ หาก นพ.ชาญชัยได้บริหารงานต่อเนื่องจะเป็นประโยชน์ต่อด้านการรักษาคนไข้มาก
“สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ วันนี้บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นรู้สึกเสียขวัญ และกำลังใจอย่างถึงที่สุด รู้สึกสิ้นหวัง และหมดศรัทธา การต่อสู้และรักษาธรรมาภิบาลต่อไปนั้น จะมีการประชุมหารือขอมติจากองค์กรแพทย์ สิ่งสำคัญที่ไม่หยุดยั้งก็คือการธำรงธรรมาภิบาลขององค์กร ผู้บริหารที่มาบริหารงานโรงพยาบาลขอนแก่นจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ จะต้องช่วยกันดูแลต่อแน่นอน” พญ.รักฝันกล่าวและว่า
การต่อสู้คำสั่งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมต่อ นพ.ชาญชัย ไม่ใช่เป็นการต่อสู้เพื่อ นพ.ชาญชัย หรือโรงพยาบาลขอนแก่นเท่านั้น เราสู้เพื่อความชอบธรรมของข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุขทุกคนที่อาจประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ได้ อยากฝากไปถึงผู้บริหาร ผู้มีอำนาจบ้านเมือง ให้พิจารณาทบทวน แก้ไข สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นบรรทัดฐานในการบริหารงานในกระทรวงสาธารณสุข และระบบราชการอื่นๆ ต่อไป
ส่วนผู้อำนวยการท่านใหม่ที่จะมารับตำแหน่งนั้น อยากเรียนให้ทราบว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โรงพยาบาลขอนแก่นเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ ลักษณะโครงสร้างองค์กรค่อนข้างซับซ้อน ปัญหาค่อนข้างเยอะ และ 2 ปีกว่าการบริหารงานได้พัฒนาก้าวกระโดดไปมาก การบริหารงานจะมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ผู้อำนวยการที่จะมาอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหารงานที่ผ่านประสบการณ์ทำงานโรงพยาบาลขนาดใหญ่ หรือผ่านการทำงานมาหลายโรงพยาบาล หรือมีความสามารถที่โดดเด่น
สำหรับพวกเราในฐานะข้าราชการ เราต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลสุขภาพประชาชนในเขต จ.ขอนแก่น และใกล้เคียง พร้อมปฏิบัติงานภายใต้ผู้บังคับบัญชา ทำงานตามคำสั่ง ตั้งใจปฏิบัติงานในหน้าที่
นอกจากนี้ ต่อคำถามถึงคำสั่งโยกย้าย นพ.ชาญชัยของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นเรื่องปกตินั้น พญ.รักฝันชี้แจงว่า “การโยกย้ายข้าราชการก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติตามกระแสข่าวที่ออกไป แต่ลองย้อนถามตัวเองว่า หากเป็นข้าราชการแล้วถูกคำสั่งโยกย้ายในลักษณะวันแรกตอนเช้าเข้ามาทำงานตามปกติ แต่บ่ายกลับมีคำสั่งให้โยกย้าย จะยังรู้สึกว่ามันเป็นธรรม หรือเหมาะสมหรือไม่” พญ.รักฝันกล่าวในที่สุด