เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่จัดพิธีส่งมอบและเปิดใช้อาคารจอดรถยนต์หลังใหม่ เพิ่มศักยภาพรองรับรถยนต์ของผู้ใช้บริการได้อีกกว่า 1,300 คัน ด้วยระบบทันสมัย ปลอดภัย และสะดวกสบาย
วันนี้ (28 ก.ย. 63) นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในฐานะผู้แทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีส่งมอบและเปิดใช้อาคารจอดรถยนต์ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ซีเอพีเอส จำกัด (CAPS : Chiangmai Airport Parking Services) ซึ่งได้รับสิทธิให้ประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการพื้นที่อาคารจอดรถยนต์ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในลักษณะการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership : PPP) ที่อนุญาต หรือให้สัมปทาน หรือให้สิทธิแก่เอกชนดําเนินกิจการของรัฐ ทั้งในกิจการเชิงพาณิชย์และสังคม ถือเป็นวิธีการลงทุนภาครัฐ (Public Investment) ที่มีความสําคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าวว่า อาคารจอดรถยนต์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการแผนเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความแออัดของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ที่ ทอท.อนุมัติให้ดำเนินการระหว่างปี 2561-2566 เพราะดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางการขยายตัวของการคมนาคมขนส่งทางอากาศ โดยในปี 2562 มีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 11.34 ล้านคน
และหนึ่งในปัญหาความต้องการเร่งด่วนของผู้ใช้บริการ คือการเพิ่มพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ เนื่องจากลานจอดรถยนต์ที่มีอยู่เดิมสามารถรองรับรถยนต์ได้เพียง 1,000 คัน ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการ แต่เมื่อรวมกับพื้นที่อาคารจอดรถหลังใหม่ จะทำให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีศักยภาพในการรองรับการจอดรถยนต์ได้กว่า 2,300 คัน หรือเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอีกกว่าเท่าตัว และในอนาคตหากสถานการณ์การท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อาคารจอดรถยนต์แห่งนี้ยังอาจได้รับการพัฒนาการใช้พื้นที่สำหรับจอดรถสาธารณะที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองท่องเที่ยว หรือแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางทางบกที่เชื่อมต่อกับทางอากาศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นด้วย
ด้านนายสุรศักดิ์ จำรัสการ กรรมการ บริษัท ซีเอพีเอส จำกัด กล่าวว่า บริษัท ซีเอพีเอส จำกัด หรือ (CAPS : Chiangmai Airport Parking Services) เกิดจากการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของกลุ่มกิจการร่วมค้า ประกอบด้วย กลุ่มบริษัท เอสอาร์ คอมเมอร์เชียล โฮลดิ้ง จำกัด ภายใต้การถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท สยามราช จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทีฆทัศน์ จํากัด โดยได้รับสิทธิให้ประกอบกิจการเพื่อการบริหารจัดการโครงการอาคารจอดรถยนต์ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 15 ปี ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 เป็นอาคารสูง 10 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 40,000 ตารางเมตร รวมถึงลานอพยพฉุกเฉินทางอากาศ สามารถรองรับปริมาณรถยนต์ได้มากถึง 1,317 คัน มีทางเชื่อมต่อระหว่างอาคารจอดรถยนต์กับอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานเชียงใหม่ (walk way) รวมระยะทาง 150 เมตร โดยออกแบบและดำเนินการให้ตรงกรอบแนวคิดและเป้าหมายของ ทอท.ที่คำนึงถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในการให้บริการ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นเมืองแห่งการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ Smart City
สำหรับจุดเด่นสำคัญโดยสรุปของอาคารจอดรถแห่งนี้ ได้แก่ 1. การออกแบบอาคารและพื้นที่ใช้สอย เป็นแนวร่วมสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีอัตลักษณ์เป็นของตนเอง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เหมาะสมและรองรับผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มผู้พิการและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ, 2. ระบบควบคุมการเข้าออกอาคารจอดรถ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ในการจอดรถ เช่น ระบบการแจกบัตรแบบอัตโนมัติ การควบคุมการเปิด ปิด ด้วยแขนไม้กั้นอัตโนมัติ ระบบ counter นับจำนวนรถเข้าอาคาร ระบบบันทึกและวิเคราะห์ป้ายทะเบียนรถ ระบบแสดงช่องว่างในลานจอด ระบบค้นหารถในช่องจอด ระบบจองช่องว่างในลานจอดผ่านทางเว็บไซต์ และจะพัฒนาจองผ่าน Application ในโอกาสต่อไป
3. มีการรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้มาตรฐานที่เป็นสากล และ 4. ด้านการให้ความช่วยเหลือ มีบริการรับส่งผู้ใช้บริการระหว่างอาคารจอดรถไปยังอาคารผู้โดยสารด้วยรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ มีลิฟต์ให้บริการระหว่างชั้น มีระบบชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า มีห้องน้ำให้บริการมากกว่า 300 ห้อง เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนอัตราค่าบริการ จะเป็นอัตราเดียวกับการให้บริการลานจอดรถยนต์เดิม เริ่มตั้งแต่ 20 บาท สำหรับการจอดไม่เกิน 1 ชั่วโมง และสูงสุด 200 บาท สำหรับจอดตั้งแต่ 13-24 ชั่วโมง