ศรีสะเกษ - ขรก.สาวเหยื่อนายก อบต.โหดบีบคอทำร้ายร่างกาย ผวาภัยมืดเป็นอันตรายต่อชีวิต ขอย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว ขณะชมรมพัฒนาชุมชน อปท. และชมรม STRONG ต่อต้านทุจริต แห่ให้กำลังใจคึกคัก เผยตำรวจเตรียมสรุปคดีส่งฟ้องอัยการ 18 ก.ย.นี้
วันนี้ (16 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณี น.ส.นันทวดี อรรคบุตร อายุ 39 ปี ตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน ชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล ให้ดำเนินคดีต่อ นายก อบต.ดู่ ที่ทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอลากร่างลงจากบันไดผลักล้มลงกับพื้นจนนิ้วเท้าแตก และได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง พร้อมข่มขู่ เกิดเหตุในที่ทำการ อบต.ดู่ เชื่อสาเหตุมาจากไม่พอใจ น.ส.นันทวดี เปิดโปงการทุจริตการก่อสร้างถนนสายบ้านครั่ง-บ้านกระเดา ระยะทาง 800 เมตร งบประมาณ 1,100,000 บาท และ น.ส.นันทวดี ไม่เซ็นตรวจรับการงานจ้าง ต่อมา นายก อบต.ดู่ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและให้การภาคเสธ พร้อมระบุว่า สาเหตุความขัดแย้งกับ น.ส.นันทวดี เป็นเรื่องส่วนตัวที่เคยคบหาฉันชู้สาวแล้วเลิกรากันไป ไม่ใช่เรื่องงานก่อสร้างถนนแต่อย่างใด ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด วันนี้ ที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ น.ส.นันทวดี อรรคบุตร อายุ 39 ปี ตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน ชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้ใช้ไม้เท้าพยุงร่างที่บาดเจ็บบริเวณข้อเท้าด้านขวาเนื่องจากนิ้วแตก เดินทางมาเข้าพบ นายสมศักดิ์ พนากิจสุวรรณ ท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอหารือเกี่ยวกับการที่ได้ถูกนายก อบต.ดู่ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้ให้ข้อเสนอแนะตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
น.ส.นันทวดี ได้รายงานให้ท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษทราบว่า เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีเรื่องต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาซ้ำอีก ดังนั้น จึงได้รายงานท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ขอย้ายตนเองออกนอกพื้นที่ อบต.ดู่ ไปอยู่ที่ อบต.ไผ่ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่บ้านเกิด หรือขอไปช่วยราชการที่แห่งใดก็ได้ เนื่องจากว่าหวั่นเกรงภัยมืดที่อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของตนเอง
ขณะเดียวกัน ได้มีตัวแทนจากชมรมพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ชมรมพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคอีสาน นำโดย นางศรีมาลา ปิยะพันธุ์ ประธานชมรมพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้นำเอากระเช้าดอกไม้และเครื่องดื่มบำรุงกำลังมามอบให้แก่ น.ส.นันทวดี และได้แจ้งให้ทราบถึงความรักความห่วงใยของสมาชิกชมรมทุกคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้แก่ น.ส.นันทวดี เพื่อให้ต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และต่อต้านการถูกทำร้ายร่างกายอย่างเหี้ยมโหดในครั้งนี้
พร้อมกันนี้ ทางชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ศรีสะเกษ นำโดย นายชาญชัย พลศรี ที่ปรึกษาชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายอิสระชล นันทบัน นำสมาชิกของชมรมซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนจากทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ มาเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ น.ส.นันทวดี ที่โดนทำร้ายร่างกายเพราะต่อต้านเรื่องการทุจริตในครั้งนี้ด้วย
น.ส.นันทวดี กล่าวว่า จากการที่ได้เข้าพบกับท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษแล้ว ตนได้ขอความเมตตาจากท้องถิ่นจังหวัดขอย้ายตัวเองออกจาก อบต.ดู่ โดยขอย้ายไปที่ อบต.ไผ่ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเกิด หรือให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษก็ได้ ซึ่งท่านท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับทราบแล้วและจะพิจารณาดำเนินการให้ต่อไป
ส่วนในด้านคดีความนั้น ร.ต.อ.ปรีชา นาคาแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล เจ้าของคดีนี้ได้โทรศัพท์แจ้งให้ตนไปลงนามในเอกสารสำนวนคดีเพิ่มเติมที่ สภ.ราษีไศล โดยร้อยเวรเจ้าของคดีจะนำคดีนี้ไปส่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดศรีสะเกษในวันที่ 18 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งขอยืนยันว่า จะดำเนินคดีต่อนายก อบต.ที่ทำร้ายร่างกายตนจนถึงที่สุด
