ศรีสะเกษ - โผล่แจงแล้ว นายก อบต.โหดโต้ลั่นไม่ได้บีบคอทำร้ายร่างกาย ขรก.สาว อ้างพลัดตกบันไดบาดเจ็บเอง ส่วนนิ้วเท้าแตกเกิดจากเจ้าตัวจูงสุนัขพลาดเตะขอบปูน ชี้ถูกแจ้งจับเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องงาน เหตุเคยคบหาแล้วเลิกรา ด้านเหยื่อแจงปมคบหาแค่ดูใจไม่มีสัมพันธ์ฉันชู้สาว ขณะพ่อหวั่นอันตรายวอนย้ายลูกสาวออกนอกพื้นที่
วันนี้ (14 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณี น.ส.นันทวดี อรรคบุตร อายุ 39 ปี อาชีพรับราชการ ตำแหน่งนักพัฒนาชุมชนชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้ถูกนายก อบต. บีบคอ ลากร่างลงมาจากบันได แล้วผลักทุ่มให้ล้มลงกับพื้นที่ทางเดินก่อนขึ้นบันไดอย่างแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ของ อบต.หลายคนเห็นเหตุการณ์ ทำให้ น.ส.นันทวดีได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามร่างกายและได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ปรีชา นาคาแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล เพื่อให้ดำเนินคดีอาญาต่อนายก อบต.จอมโหด ขณะที่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้มาให้ปากคำเพื่อเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ซึ่งพยานทุกคนได้ให้การตรงกันว่าเห็นเหตุการณ์ที่นายก อบต.ทำร้าย น.ส.นันทวดี จนทำให้ได้รับบาดเจ็บจริง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ที่บ้านแตงแซง ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ของ นายพีรพงษ์ ศรีอนันต์กูร อายุ 56 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดู่ ซึ่งถูก น.ส.นันทวดีแจ้งความดำเนินคดี พบว่านายก อบต.ดู่กำลังพักผ่อนอยู่ภายในบริเวณบ้าน โดยได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า วันที่เกิดเหตุตนออกจากบ้านหลังนี้เพื่อไปทำงานที่ อบต.ดู่ตามปกติ และปรากฏว่าขณะที่กำลังเดินขึ้นบันได น.ส.นันทวดีได้เดินตามหลังตนมาและได้พูดจาต่อว่าตนหลายอย่าง เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ตนเคยคบหากับ น.ส.นันทวดีมาก่อน จนกระทั่งตนได้จดทะเบียนสมรสกับเจ้าหน้าที่ อบต.ดู่คนหนึ่งเพื่ออยู่กินกันฉันสามีภรรยา จึงได้เลิกคบกับ น.ส.นันทวดี
น.ส.นันทวดีได้ต่อว่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายอย่าง และได้ทวงคืนเงินจำนวน 3,000 บาทที่ตนได้ยืมจาก น.ส.นันทวดีไป ทำให้ตนโกรธที่โดนด่าว่า จึงได้ร้องถามไปว่า “มึงจะเอาอะไรกับกู” จากนั้นตนได้เดินกลับลงจากบันไดมา แต่ว่า น.ส.นันทวดี ซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงได้เสียหลักพลัดตกจากบันไดลงมาประมาณ 3 ขั้นลงมากองอยู่กับพื้น โดยที่ตนไม่ได้บีบคอหรือว่าทำร้ายร่างกายของ น.ส.นันทวดีแต่อย่างใด จากนั้นตนได้ขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน
นายก อบต.ดู่กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ น.ส.นันทวดีได้รับบาดเจ็บที่เท้าข้างขวาบริเวณนิ้วก้อยนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.นันทวดีได้รับอุบัติเหตุเพราะจูงสุนัขที่บ้านและพลาดเท้าไปโดนขอบปูนทำให้นิ้วเท้าเจ็บ ไม่น่าจะเกิดจากการที่พลัดตกจากบันไดสำนักงาน ส่วนที่บริเวณหัวเข่าที่มีรอยช้ำนั้นเชื่อว่าเกิดจากการพลัดตกจากบันไดจริง ตนขอยืนยันว่าไม่ได้บีบคอทำร้ายร่างกายของ น.ส.นันทวดีแต่อย่างใด และขอฝากถึง น.ส.นันทวดีว่าเราตกลงเลิกคบหากันแล้ว และตนมีครอบครัวใหม่ ควรที่จะต่างคนต่างอยู่ หากมีอะไรก็สามารถพูดจากันได้
ส่วนการที่ น.ส.นันทวดีจะขอย้ายจาก อบต.ดู่นั้นเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ตนไม่มีสิทธิ์สั่งย้าย น.ส.นันทวดี ออกไปอยู่ที่อื่น แต่ว่า น.ส.นันทวดีสามารถทำงานที่เดิมได้ เพราะต่างคนต่างทำงานไม่ได้ข้องเกี่ยวกันอยู่แล้ว การที่ น.ส.นันทวดีไปแจ้งความดำเนินคดีตนนั้นเชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเรื่องงานแต่อย่างใด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 3 บ้านหนองดุม ต.ไผ่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.นันทวดี อรรคบุตร อายุ 39 ปี พักอาศัยอยู่กับพ่อ คือ นายใบ อรรคบุตร อายุ 84 ปี โดย น.ส.นันทวดียังอยู่ในอาการที่ยังไม่หายจากความเจ็บปวดบริเวณนิ้วก้อยเท้าข้างขวาที่เข้าเฝือกเอาไว้ มีไม้เท้าวางอยู่ข้างตัวเพื่อใช้ในการเดินเข้าห้องน้ำในบ้าน
น.ส.นันทวดีได้กล่าวว่า การที่นายก อบต.ดู่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายตนนั้นเป็นการพูดเท็จ เพราะขณะเกิดเหตุมีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน การที่บอกว่านิ้วเท้าข้างขวาของตนแตกมาก่อนนั้น อาการบาดเจ็บได้หายนานหลายวันแล้ว แต่ว่าเมื่อโดนนายก อบต.ดู่ทำร้ายทุ่มลงกับพื้นทำให้นิ้วก้อยเท้าด้านขวาแตกร้าวขึ้นมาอีก
น.ส.นันทวดีกล่าวต่อว่า ตนไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายก อบต.ดู่ เพราะช่วงนั้นตนหย่าขาดจากสามี ส่วนนายก อบต.ดู่หย่าขาดจากภรรยา จึงได้เพียงแค่คบหาดูใจกันเท่านั้น แต่เมื่อดูใจกันแล้วไปกันไม่ได้ก็ได้เลิกคบหากัน ตนขอยืนยันว่าการที่ตนโดนนายก อบต.ดู่ทำร้ายในครั้งนี้เกิดจากการที่ตนไม่ยอมเซ็นตรวจรับงานก่อสร้างถนนงบประมาณ 1,100,000 บาท ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด
ทางด้าน นายใบ อรรคบุตร อายุ 84 ปี พ่อของ น.ส.นันทวดี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีการทำร้ายร่างกายกันรุนแรงมากขนาดนี้ ตนเป็นห่วงลูกสาวมาก จะขอให้ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจขอได้โปรดพิจารณาย้าย น.ส.นันทวดี ลูกสาวของตนให้ออกนอกพื้นที่ไปทำงานที่อื่น โดยหากเป็นไปได้ขอให้ย้ายมาทำงานอยู่ที่ อบต.ไผ่ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเพื่อจะได้ช่วยดูแลตนที่อายุมากแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางด้าน ร.ต.อ.ปรีชา นาคาแก้ว ร้อยเวรเจ้าของคดีนี้ ได้นัดหมายให้ นายพีรพงษ์ ศรีอนันต์กูร อายุ 56 ปี นายก อบต.ดู่ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 14 ก.ย. 63 เวลา 09.00 น. ที่ สภ.ราษีไศล เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำ แต่เนื่องจากว่าทนายความของนายก อบต.ดู่ ติดศาล จ.ศรีสะเกษ จึงได้ขอเลื่อนกำหนดเวลามาพบพนักงานสอบสวนเป็นเวลา 14.00 น. วันเดียวกันนี้