บั้งไฟพญานาคไม่ได้มีแค่หนองคาย ออกพรรษาปีนี้ไปดูเลยริมน้ำโขง@บ้านแพง

นครพนม - ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ออกพรรษาปีนี้ชาวบ้านโพธิ์ทอง ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง นครพนม เชิญชวนร่วมลุ้นดู “บั้งไฟพญานาค” โผล่จากลำน้ำโขง ชาวบ้านเชื่อเป็นเมืองพญานาคเชื่อมโยงจากหนองคาย มีบั้งไฟฯ โผล่ให้เห็นติดต่อกันนานกว่า 10 ปี

บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงจุดท่าเทียบเรือ บ้านโพธิ์ไทร หมู่ 2 และบ้านโพธิ์ทองหมู่ 8 ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทุกปีในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จะเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค เหมือนริมน้ำโขงแถบ อ.โพนพิสัย อ.รัตนวาปี ฯลฯ จ.หนองคาย แม้บั้งไฟพญานาคบ้านโพธิ์ไทรจะไม่โด่งดัง เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับชาวบ้านท้องถิ่นแถบนี้รับรู้และได้เห็นกับตากันมานานกว่า 10 ปี


นายธีรชาติ ผาลี หรือลุงหลอย อายุ 63 ปี สมาชิก อบต.ไผ่ล้อม บ้านโพธิ์ทอง หมู่ 8 (ส.อบต.ฯ) อดีตผู้ใหญ่บ้านโพธิ์ทอง เล่าว่า หมู่บ้านโพธิ์ไทรและบ้านโพธิ์ทองเป็นหมู่บ้านติดกับแม่น้ำโขง มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ผูกพันกับน้ำโขงมาหลายชั่วอายุคน นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่มีโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึก และเป็นจุดผ่อนปรนการค้าระหว่างบ้านท่าสะอาด เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ที่จะข้ามมาติดต่อค้าขายตามแนวชายแดน แต่ช่วงนี้ปิดชั่วคราวตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

ตามลำแม่น้ำโขงจุดนี้ ย้อนไปเมื่อปี 2549 ได้เกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคขึ้นเป็นปีแรก นับได้จำนวน 18 ดวง หลังจากก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร่ำลือว่าพบเห็นบั้งไฟพญานาคมาหลายสิบปี ตนจึงเฝ้าสังเกตการณ์และเก็บสถิติต่อเนื่องมาทุกปี มาจนถึงปี 2562 รวม 14 ปีแล้ว จะมีบั้งไฟพญานาคมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะปี 2555 มีมากถึง 32 ดวง ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่เหมาะแก่การส่งเสริมการท่องเที่ยว และชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ บั้งไฟพญานาคในคืนวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

นอกจากงานประเพณีสำคัญของจังหวัดนครพนม คือไหลเรือไฟ ต่อไปเชื่อว่าประชาชน นักท่องเที่ยว จะเดินทางมาเฝ้ารอชมบั้งไฟพญานาค ณ หมู่บ้านแห่งนี้กันมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวให้ความสนใจเตรียมที่จะมาเฝ้ารอชมจำนวนมากกว่าทุกปี


นายธีรชาติกล่าวถึงความเชื่อเรื่องราวของพญานาคอาจพิสูจน์ไม่ได้ แต่สำหรับคนแถบลุ่มน้ำโขง รวมถึงคนที่เคารพศรัทธา ยังมีความเชื่อตามตำนาน และเชื่อว่าในแม่น้ำโขงมีพญานาคดูแลปกปักรักษา ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล และชาวบ้านโพธิ์ไทร ต.ไผ่ล้อมต่างก็มีความเชื่อว่ามีพญานาคคอยดูแลรักษา และอาจจะเชื่อมไปยังฝั่งลาว

รวมถึงสายน้ำโขงจังหวัดหนองคายและบึงกาฬที่เชื่อมโยงเป็นเมืองพญานาค ทำให้มีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคให้เห็นทุกปีในคืนวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

นายธีรชาติบอกอีกว่า หากยืนอยู่ในพื้นที่บ้านโพธิ์ไทรแล้วมองข้ามแม่น้ำโขงไปยังบ้านท่าสะอาด เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จะสามารถมองเห็นแนวเขาที่ชาวบ้านเรียกว่าภูงู มีลักษณะคล้ายตัวงูทอดยาวตามแนวแม่น้ำโขง อีกทั้งยังมีตำนานเรื่องเล่าตามความเชื่อ พื้นที่ฝั่งลาวเป็นเมืองโบราณ

ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงตำนานพญานาค หรือตำนานเมืองบาดาล สอดคล้องกับในพื้นที่บ้านโพธิ์ไทร หมู่ 2 ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง มีวัดที่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี เกิดขึ้นมาพร้อมกับการก่อตั้งวัดและหมู่บ้านที่มีลักษณะแปลก

คือต้นโพธิ์โบราณต้นนี้ลำต้นจะแตกกิ่งออกไปนับได้ 7 ช่อ ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพญานาค 7 เศียรปกปักรักษา เคยมีชาวบ้านเห็นปรากฏการณ์แสงประหลาดพุ่งออกมาในวันพระบ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงเกี่ยวข้องเรื่องพญานาค ทำให้ชาวบ้านเคารพศรัทธากราบไหว้ขอโชคลาภ และยังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านอีกด้วย


นายธีรชาติบอกว่า เมื่อช่วงออกพรรษาปี 2562 ที่ผ่านมา ทางอำเภอบ้านแพงได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไผ่ล้อมจัดกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมประกอบพิธีรำบูชาพญานาค ตามประเพณีความเชื่อของชาวลุ่มน้ำโขง เพื่อเป็นการสักการบูชา บอกกล่าวขอพร และขอพรให้องค์พญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแม่น้ำโขงได้แสดงปรากฏการณ์ธรรมชาติให้มากขึ้นทุกปี จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวตามมา

“ออกพรรษาปีนี้ก็อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มีจิตศรัทธาในพญานาคเดินทางมาร่วมงานรำบวงสรวง และนั่งลุ้นดูบั้งไฟพญานาคกันมากๆ รับรองไม่ผิดหวัง” นายธีรชาติกล่าว