ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้สูงวัยเฮ! นักวิจัย วพบ.โคราชสุดเจ๋ง ค้นพบโปรแกรมออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านอัจฉริยะช่วยผู้สูงอายุทรงตัวดีป้องกันหกล้มตายกว่าปีละ 2,000 ราย เผยทำแค่ 10 ท่าใช้เวลาไม่นานแต่ส่งผลดีต่อร่างกาย ด้านคุณตาคุณยายวัยดึกการันตีดีจริงเห็นผล เตรียมขยายให้ผู้สูงอายุได้ใช้ประโยชน์ทุกพื้นที่
วันนี้ (8 ก.ย.) ดร.พรฤดี นิธิรัตน์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครราชสีมา เปิดเผยว่า วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี(วพบ.)นครราชสีมา ให้ความสำคัญทั้งด้านการเรียนการสอน และสนับสนุนให้คณาจารย์มีผลงานด้านวิชาการ โดยเฉพาะการทำงานด้านการวิจัยที่สร้างสรรค์ โดยหนึ่งปีนี้มีงานวิจัยประมาณ 20 เรื่อง ซึ่งงานวิจัยที่ทำนี้จะเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับจังหวัดและประเทศชาติ เน้นการนำไปใช้ประโยชน์จากงานวิจัยได้จริง ไม่ใช่งานวิจัยที่อยู่บนหิ้งเท่านั้น เพราะเราเชื่อว่างานวิจัยจะเกิดการพัฒนาในด้านต่างๆ ตามมา
นายประทุ่ม กงมหา นักวิจัยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครราชสีมา เปิดเผยว่า สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ปัญหาที่พบมากที่สุดคือการหกล้ม โดยประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มปีละกว่า 2,000 ราย เกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงของระบบกระดูกและข้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว ทำให้เดินช้าลง เดินเซ สูญเสียการทรงตัว เสี่ยงต่อการหกล้มสูง นอกจากนี้ การขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทำให้กล้ามเนื้อขาดความยืดหยุ่น กระดูกและข้อต่อไม่แข็งแรง
ฉะนั้น การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาเนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่จะสูญเสียความเข็งแรงได้มากกว่ากล้ามเนื้อแขน ทีมนักวิจัยฯ พบโปรแกรมการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านต่อความสามารถในการทรงตัวของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทำได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน ด้วยการออกกำลังกายตามโปรแกรมรวม 10 ท่า พร้อมกับการถ่วงน้ำหนักไว้ที่ข้อเท้า โดยเริ่มจากเพิ่มน้ำหนักครั้งละน้อยๆ ให้ออกกำลังกายเป็นชุด ฝึกทำ 3 ชุดต่อวัน ความถี่ 3 วันต่อสัปดาห์ ทำวันเว้นวันเพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัก และลดการบาดเจ็บ การออกกำลังกายที่ปรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อได้มากกว่าการออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักน้อย เมื่อผู้สูงอายุมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นการทรงตัวก็เพิ่มขึ้นด้วย
“สำหรับเป้าหมายของงานวิจัยฯ ครั้งนี้มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์แก่กลุ่มผู้สูงอายุ เป็นงานวิจัยที่นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง เห็นผลจริง และจะขยายไปยังกลุ่มผู้สูงอายุในทุกชุมชนและทุกพื้นที่ ซึ่งขณะนี้โปรแกรมออกกำลังกายนี้ได้นำไปใช้กับผู้สูงอายุในชุมชนต่างๆ ของเขตเทศบาลนครราชสีมา โดยใช้เครือข่าย อสม.ลงพื้นที่ไปสอนผู้สูงอายุตามชุมชน และกลุ่มหรือชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่ต่างอำเภอด้วย” นายประทุ่มกล่าว
ทางด้าน นางจำเรียง กรโคกรวด อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กล่าวว่า ได้นำความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมการออกกำลังกายฯ ดังกล่าวมาสอนและบอกต่อกับกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนสนามกีฬากลางเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นชุมชนที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเลี้ยงหลาน หรือเป็นผู้ป่วยติดเตียง เมื่อเรานำความรู้ไปบอกทุกคนทดลองทำก็เห็นผลว่าดี ฉะนั้นทุกครั้งที่มาออกกำลังกายกันจะต้องมี 10 ท่านี้ร่วมด้วย ทำให้ผู้สูงอายุที่นี่เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพดูแลตัวเองได้ สุขภาพดีทั้งกายและใจ
ขณะที่ นางจินดา ฉ่ำแสง อายุ 73 ปี บอกว่า รู้สึกดีมาก ๆ การออกกำลังกายได้ทั้งเพื่อน ได้สังคม และได้สุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการใช้ลูกตุ้มทรายมาถ่วงขาเพื่อฝึกการทรงตัว ทำให้เดินได้ดีขึ้น นิ่งขึ้น