“พาณิชย์” เดินหน้าผลักดันธุรกิจไทยปรับตัวรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจสูงวัย เตรียมลุยแนะนำและชี้โอกาสการทำธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสูงวัยที่มีแนวโน้มเติบโต พบธุรกิจที่มีโอกาสสูง มีทั้งบริการสุขภาพ หุ่นยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่พักอาศัย อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค บริการการเงินและประกันภัย
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.มีแผนที่จะส่งเสริมและผลักดันเศรษฐกิจสูงวัย เพื่อรองรับการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การสหประชาชาติคาดว่าจำนวนผู้สูงอายุในไทยจะเพิ่มเป็น 19.55 ล้านคนในปี 2596 หรือคิดเป็น 29.64% หรือ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด เพิ่มจาก 11.9 ล้านคนในปี 2561 ทำให้มีความจำเป็นต้องผลักดันให้มีธุรกิจบริการเพื่อผู้สูงวัยเพิ่มมากขึ้น โดยธุรกิจบริการที่มีโอกาสในเศรษฐกิจสูงวัยพบว่ามีเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ธุรกิจการแพทย์และบริการสุขภาพ, ธุรกิจหุ่นยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ธุรกิจการพัฒนาที่พักอาศัยและไลฟ์สไตล์, ธุรกิจอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจบริการด้านการเงินและการประกันภัย เป็นต้น
“จะเริ่มทำในปีงบประมาณ 2564 โดยจะเข้าไปแนะนำ และชี้โอกาสในการทำธุรกิจ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสูงวัยเร่งปรับตัว เร่งพัฒนาการทำธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของสังคมสูงวัย เพราะเดิมก็ทำธุรกิจอยู่แล้ว แต่ถ้าปรับรูปแบบการทำธุรกิจโดยหันมามองกลุ่มลูกค้าสูงวัย ซึ่งเป้าหมายใหม่ที่กำลังเติบโตก็จะมีโอกาสในการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โดยลูกค้าสูงวัยมองได้ตั้งแต่ 50, 60, 70 และ 80 ขึ้นไป” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า โอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับธุรกิจการแพทย์และบริการสุขภาพจะเกี่ยวข้องกับการให้บริการดูแลผู้สูงอายุ เช่น การรักษาโรค บ้านพักผู้สูงอายุ สถานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งไม่เพียงแต่ให้บริการผู้สูงอายุคนไทย ยังสามารถดึงดูดผู้ใช้บริการจากต่างประเทศได้ด้วย ส่วนธุรกิจหุ่นยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นอีกธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต เพราะภาพเดิมที่มองว่าผู้สูงอายุไม่ทันเทคโนโลยี แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุ เช่น เทคโนโลยีด้านสุขภาพ ที่เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตกับผู้สูงอายุ เทคโนโลยีบ้านที่เชื่อมต่อกับทุกอย่าง เพื่ออำนวยความสะดวกผู้สูงอายุ หุ่นยนต์ที่จะเข้ามาช่วยบริการและดูแลสุขภาพ เป็นต้น
สำหรับธุรกิจที่พักอาศัยและไลฟ์สไตล์ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะบ้านพักคนชรา ชุมชนผู้สูงอายุ ซึ่งมีโอกาสเติบโต เพราะคนเริ่มวางแผนเกษียณอายุ ส่วนธุรกิจอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค พบว่าอาหารเสริมสำหรับผู้สูงวัย อาหารที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล อาหารสำเร็จรูปที่มีไขมันต่ำและน้ำตาลน้อย และอาหารพร้อมปรุง ธุรกิจเครื่องสำอางออร์แกนิก และสมุนไพร มีโอกาสเติบโตสูง รวมทั้งธุรกิจบริการด้านการเงินและการประกันภัย ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาส เพราะสามารถช่วยในการวางแผนทางด้านการเงินให้แก่ผู้ที่จะเป็นผู้สูงอายุ
“ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจสูงวัยเหล่านี้ หากวางแผนดีๆ ก็มีโอกาสเพิ่มรายได้ ทั้งจากการใช้บริการของผู้สูงอายุในไทย และผู้สูงอายุจากต่างประเทศที่จะเข้ามา และยังเป็นผลดีต่อธุรกิจในระดับฐานราก เช่น ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่ตั้งอยู่ในจังหวัดต่างๆ ธุรกิจสปา นวดแผนไทย แหล่งท่องเที่ยว หรืออาหารเพื่อสุขภาพ สมุนไพร หากพัฒนาและตอบโจทย์ผู้สูงอายุได้ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว