อมาโด้จับเทรนด์ “สูงวัย” เปิดตัว “อมาโด้ บี-ลินซ์”

อมาโด้ ชี้ตลาดสูงวัยทรงศักยภาพมีกำลังซื้อสูง พร้อมจ่ายเพื่อดูแลสุขภาพองค์รวมให้อายุยืน ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหลังเกษียณ เดินหน้าพัฒนาสินค้าคว้าโอกาสในตลาดหลังการตอบรับที่ดีกับ “คอลลิจิ คอลลาเจน” โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการดูแลกระดูก ไขข้อ ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) ตีตลาดสูงวัยผ่านเทเลเซลล์ รวมไปถึงตลาดคนอายุ 30 ขึ้นไปที่มีปัญหานอนไม่หลับ หนึ่งในปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนไทย พร้อมเปิดตัว “ดุ๊ก ภาณุเดช” ดาราพิธีกร เป็นตัวแทนคนรุ่นใหญ่ที่มีสุขภาพดี ตั้งเป้ายอดขาย 100,000 กล่อง 65 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1/2564


นายธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีอายุระหว่าง 40-50 ปี และมีจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เกือบ 20% ของจำนวนประชากรในประเทศ ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและพร้อมใช้จ่ายกับสินค้าหรือบริการที่ช่วยส่งเสริมการดูแลสุขภาพของตนเอง และให้ความสำคัญต่อการมีอายุยืนยาวพร้อมสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งคนสูงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของร่างกายมากขึ้น ทั้งในด้านของสุขภาพและรูปลักษณ์ภายนอกตามกาลเวลาที่ผ่านไป รวมทั้งจากการทำงานหนักขึ้นในช่วงวัยทำงานที่ผ่านมา เมื่อมีเวลาจึงเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยปรับสมดุล เพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย บำรุงระบบประสาทและสมอง รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ควบคู่กับดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ ประกอบกับปัญหามลภาวะและโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามาเป็นปัจจัยกระตุ้นผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยหันมาให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพและสร้างภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาอมาโด้มองเห็นโอกาสและความสำคัญของตลาดผู้บริโภคสูงวัย โดยได้วางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด จากพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวพบว่าปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้าจะให้ความสำคัญต่อคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และประโยชน์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุ้มค่ากับราคาเป็นส่วนสำคัญในการเลือกซื้อสินค้า โดยนิยมซื้อสินค้าครั้งแรกผ่านช่องทางในการจัดจำหน่ายหลักหรือร้านค้า เพื่อสามารถจับต้องสินค้าและมีประสบการณ์กับการเลือกด้วยการสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากพนักงาน แต่การสั่งซื้อซ้ำจะเริ่มซื้อผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน หรือซื้อผ่านช่องทางขายโดยตรงถึงผู้บริโภค เช่น ช่องทางเทเลเซล เป็นต้น


ทั้งนี้ ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) ในกลุ่มสุขภาพ สำหรับบำรุงร่างกาย ระบบประสาทและสมอง จับตลาดผู้สูงวัย รวมไปถึงคนทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหานอนไม่หลับ นอนแล้วแต่สมองไม่แล่น หลับไม่ลึก มีการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้รู้สึกไม่สดชื่น สมองทำงานไม่เต็มที่ และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวนับเป็นปัญหาสุขภาพลำดับต้นๆ ของคนไทย “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) ผลิตจากเห็ดหลินจือ น้ำมันจมูกข้าว สารสกัดจากมะระขี้นก สารสกัดจากข้าว วิตามินบีรวม และแอล-ธีอะนีน พร้อมทั้งได้ “ดุ๊ก ภาณุเดช” นักแสดง พิธีกร และผู้จัดละครมากความสามารถ เพื่อสื่อถึงตัวแทนของคนที่ดูแลสุขภาพที่ดี นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่รับประทานอาหารเสริมเป็นหลัก แต่เน้นการรับประทานอาหารและออกกำลังกาย ทั้งนี้ ตามหลักการเลือกพรีเซ็นเตอร์ของอมาโด้คือจะต้อง “รับประทานจริง” เช่นเดียวกับ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” พรีเซ็นเตอร์อมาโด้ คอลลิจิ คอลลาเจน (Amado Colligi Collagen) กระป๋องทอง และ “ฮยอนบิน” ซูเปอร์สตาร์เกาหลี พรีเซ็นเตอร์ อมาโด้ เฮช-คอลลาเจน (Amado H-Collagen) เมื่อ “ดุ๊ก ภาณุเดช” ได้เข้าดูทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้เริ่มมั่นใจในมาตรฐานและคุณภาพ จนเปิดใจทดลอง และเมื่อเห็นผลจึงตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ หลักการเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่รับประทานจริงนั้นมีส่วนสำคัญช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและเปิดใจบริโภคผลิตภัณฑ์ของอมาโด้

“ด้านกลยุทธ์ในการขาย “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) จะยังคงเน้นไปใน 4 ช่องทางหลัก เพื่อให้สามารถกระจายไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ได้แก่ ผ่านดีลเลอร์ หน้าร้านคีออสก์ ช่องทางออนไลน์ และช่องทางเทเลเซล โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภคสูงวัย ซึ่งช่องทางที่คนกลุ่มดังกล่าวนิยมที่สุดคือ ช่องทางเทเลเซลที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์อมาโด้ในช่องทางดังกล่าว เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มให้ความมั่นใจในแบรนด์และคุณภาพของสินค้าจึงเกิดการสั่งซื้อซ้ำมากขึ้น ทำให้ขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น เรามุ่งขยายช่องทางขายผ่านเทเลเซลเนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโต และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายที่สุด แม้ว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 แนวโน้มที่คนอยู่บ้านลดลง แต่ตลาดในช่องทางดังกล่าวมีขนาดตลาดที่ใหญ่ในขณะที่ยังมีผู้เล่นไม่มาก รวมถึงยังเป็นช่องทางที่มีศักยภาพ”

นายธนากล่าวทิ้งท้ายว่า อมาโด้วางเป้ายอดอมาโด้ บี-ลินซ์ ไว้ที่ 15,000,000 บาทในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้ามียอดขายแตะ 100,000 กล่อง คิดเป็นยอดขาย 65 ล้านบาทภายในไตรมาส 1/2564 มั่นใจว่า “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในการเลือกซื้อเป็นของขวัญแทนความรักความห่วงใยให้แก่ผู้ใหญ่และคนที่รัก เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบให้บรรจุลงในกล่องเหล็ก สามารถใช้เป็นของขวัญของฝากได์ นอกจากการซื้อเพื่อรับประทานเองอีกด้วย