เชียงราย - ผวากันอีก.. สองหนุ่มพม่าบินจากย่างกุ้งเข้าเชียงตุง อีกหนึ่งหัวเมืองใหญ่รัฐฉาน ไข้สูง-จมูกรับกลิ่นได้ไม่ดี สงสัยติดเชื้อโควิด ทางการพม่าต้องงัดมาตรการคุมเข้มปิดตลาดเชียงตุง-เคอร์ฟิวท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามแม่สาย
รายงานข่าวจากท่าขี้เหล็ก-พม่า หัวเมืองชายแดนรัฐฉาน ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่า ตั้งแต่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางการพม่าได้ใช้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดกว่าเดิม หลังมีการตรวจพบผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายว่าอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด 2 ราย ที่เมืองเชียงตุง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในรัฐฉานอยู่ห่างจากเมืองท่าขี้เหล็กไปตามเส้นทางยุทธศาสตร์ R3b ประมาณ 168 กิโลเมตร
ผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายติดเชื้อที่พบ 2 รายนี้ เป็นชายอายุ 25 ปี และ 27 ปีตามลำดับ ทั้งคู่ได้เดินทางมาจากกรุงย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงของพม่า และได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเชียงตุง จากนั้นพบว่ามีอาการไข้ขึ้นสูงและจมูกรับกลิ่นได้ไม่ดีเหมือนเดิม ก่อนถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงตุง และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเชียงตุงได้เพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองเข้มงวดขึ้นทันที โดยมีรายงานว่าได้มีการปิดตลาดหลวงเชียงตุง และตลาดปลอดภาษี หรือดิวตี้ฟรี อย่างน้อย 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-4 ก.ย.นี้
“ชายทั้ง 2 คนเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินเฮโฮ เมืองตองจี เมืองเอกของรัฐฉานไปยังกรุงย่างกุ้ง และเดินทางกลับมายังสนามบินเชียงตุงในเขตรัฐฉาน จากนั้นได้เข้าพักที่โรงแรมในเมืองเชียงตุง และพบว่าตัวเองมีอาการป่วยในช่วงเช้าของวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อไปโรงพยาบาลจึงถูกกักตัวเอาไว้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลการตรวจหาเชื้อว่าจะเป็นไวรัสโควิด-19 หรือไม่” แหล่งข่าวในรัฐฉานกล่าว
ด้านเมืองท่าขี้เหล็ก หัวเมืองใหญ่ตรงข้าม อ.แม่สาย ซึ่งมีเส้นทางเชื่อมโยงเมืองเชียงตุงนั้น พบว่าทั้งประเทศไทยและพม่าได้ตกลงปิดพรมแดนระหว่างกันตลอดแนว คงเหลือจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพื่อการขนส่งสินค้านั้น ล่าสุดหลังเกิดเหตุการณ์ในเมืองเชียงตุงทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นขี้เหล็กก็ได้เข้มงวดในมากขึ้น โดยได้ประกาศห้ามคนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 00.00-04.00 น. เบื้องต้นคาดว่าจะประกาศใช้ช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ หรือประมาณ 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม การใช้ชีวิตประจำวันของชาวท่าขี้เหล็กทั่วไปยังคงเป็นไปตามปกติ ตลาดต่างๆ โดยเฉพาะตลาดสด ตลาดท่าล้อ ฯลฯ ที่ติดพรมแดนยังคงเปิด แต่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถยนต์ออกลาดตระเวนเพื่อควบคุมให้ถือปฏิบัติกันอย่างเข้มงวด
ขณะที่ฝั่งไทยพบว่าทาง จ.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองกำลังผาเมือง ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ได้จัดวางกำลังเอาไว้ตลอดแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของชาวต่างชาติ ตามมาตรการปิดพรมแดนอย่างเข้มงวด เนื่องจากก่อนหน้านี้มีความพยายามจะลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง จ.เชียงราย กำหนดวิธีการให้ดำเนินคดีอย่างระมัดระวังและผลักดันออกนอกประเทศทันที แต่หากมีคนไทยและต่างชาติเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็จะกักดูอาการที่โรงแรมในเขต อ.เมืองเชียงราย 14 วัน และหากเป็นคนไทยลักลอบเข้ามาก็จะนำไปกักที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.เชียงราย