ท่าขี้เหล็ก/ชายแดนแม่สาย - ทางการพม่าเปลี่ยนแผน..เร่งส่งตัวคนไทยพ้นโทษในรัฐฉานคืนไทยทันวันนี้ พบมีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลไทย 5 ราย รวมคนช่วย “เปรี้ยวหั่นศพ”กบดานท่าขี้เหล็กด้วย
วันนี้ (30 เม.ย.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงราย สภ.แม่สาย สาธารณสุข ฯลฯ รับตัวผู้ต้องขังชาวไทย 26 คน เป็นชาย 23 คนและหญิง 3 คน ที่พ้นโทษจากการทำผิดในเขตรัฐฉาน และเมียนมาเปลี่ยนแผนดำเนินการส่งข้ามฝั่งกลับไทย
หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมาแจ้งว่าไม่สามารถส่งตัวทั้งหมดกลับได้ทันในวันนี้ เนื่องจากยังคัดกรองไม่แล้วเสร็จ แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไทยได้ประสานเร่งรัด กระทั่งนายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว และมอบหมายให้ส่งตัวทั้ง 26 คนเดินทางกลับได้ทันดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่พม่าได้นำทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถตู้ข้ามสะพานข้ามลำน้ำสายมาในเวลาประมาณ 15.00 น.
ทั้งนี้ คนไทยที่พ้นโทษในพม่าและมีการส่งตัวกลับให้ทางการไทยครั้งนี้ มีบุคคลที่มีหมายจับศาลไทยติดตัว 5 คน ประกอบด้วย นายธวัชชัย อ้อมชมภู อายุ 32 ปี ชาว จ.ปทุมธานี, นายประชัน แสนถัง อายุ 46 ปี ชาว จ.เชียงใหม่, นายอำนาจ จู้ห้อง อายุ 54 ปี, นายสมชาติ สวีร์โชติกุล อายุ 40 ปี และนายเอนก กาวกาย อายุ 32 ปี ทำให้มีการวางกำลังคุ้มกันและดูแลอย่างเข้มงวด
หลังจากมีการส่งมอบตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ได้แยกตัวกลุ่มคนทั้งหมดออกเป็น 2 กลุ่ม นำผู้ที่มีหมายจับศาลไทย 5 คนแยกไปควบคุมตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงราย เพื่อรอตำรวจท้องที่ที่มีหมายจับรับตัวไปดำเนินคดีต่อ ส่วนที่เหลือถูกส่งตัวไปยังร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) เชียงราย เพื่อสอบปากคำและกักดูอาการเช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาก่อนหน้านี้เป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ระบาด ก่อนให้เดินทางกลับภูมิลำเนาตามปกติ
สำหรับผู้ที่พ้นโทษตามกฎหมายพม่าและมีหมายจับในฝั่งไทยติดตัวนั้น นายธวัชชัยเป็นผู้ที่ถูกจับตามองมากที่สุด เพราะนอกจากจะหนีหมายจับศาล จ.ปทุมธานี ในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเมื่อปี 2559 และข้อหาเสพยาบ้าขณะขับขี่ตามหมายศาล จ.ศรีษะเกษ เมื่อปี 2560 แล้ว ยังมีประวัติว่าเป็นผู้นำพาช่วยเหลือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ "เปรี้ยว" อายุ 26 ปี ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าหั่นศพที่ จ.ขอนแก่น หลบซ่อนตัวใน จ.ท่าขี้เหล็ก ด้วย
แต่หลังจากถูกกดดัน น.ส.ปรียานุชก็มอบตัวต่อทางการไทย แต่นายธวัชชัยยังหลบหนีต่อ กระทั่งถูกตำรวจเมืองเชียงตุงของเมียนมาจับกุมเมื่อปลายเดือน ม.ค.2561 ฐานเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ชาวบ้านเสียหาย รวมทั้งข้อหามีอาวุธปืน-เครื่องกระสุนไว้ในการครอบครองและข้อหาเสพยาเสพติด จนถูกจำคุกที่เมืองเชียงตุงจนพ้นโทษดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีนายอำนาจ จู้ห้อง อายุ 54 ปี ชาว จ.ตรัง ที่มีหมายจับจากศาล จ.ตรัง เมื่อปี 2561 ในข้อหากระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ต่อมาถูกจับในประเทศพม่าช่วงต้นเดือน ก.ค. 2562 พร้อมพวกรวม 6 คน เพราะไปกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ จ.ท่าขี้เหล็ก
ทั้งนี้ ทางการพม่าได้ทยอยปล่อยคนไทยที่ต้องโทษคดีต่างๆ กลับมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อ 23 เม.ย.ที่ผ่านมาก็ได้ปล่อยตัวนายอภิเษก พลอยวิเศษแสง ชาว ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ที่มีหมายจับจากศาล จ.สมุทรปราการ ปี 2556 ข้อหาครอบครองยาเสพติดท้องที่ สภ.สำโรงเหนือมาแล้วด้วย