พระนครศรีอยุธยา - พ่อใจสลาย สูญเสียลูกสาววัย 11 ขวบ หลังโรงเรียนพาหมอฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ลูก แต่ไม่ตรวจวัดไข้ก่อน สุดท้ายเด็กแน่นหน้าอก อาเจียน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Surapot Sukkha ได้มีการโพสต์ข้อความขอความเป็นธรรม โดยโพสต์ภาพงานศพของลูกสาว พร้อมระบุข้อความว่า เหตุการณ์ที่ลูกผมเสียชีวิต เนื่องจากลูกผมไปโรงเรียนแล้วมีไข้ ทางโรงเรียนได้เอาหมอมาฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก โดยที่ทางโรงเรียนไม่ตรวจวัดไข้ก่อนฉีดวัคซีน ลูกผมเกิดอาการแน่นหน้าอก อาเจียน (แล้วก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา) ลูกผมไม่มีโรคประจำตัว แข็งแรงปกติ
ล่าสุด เวลา 10.00 น .วันนี้ (31 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางมายังวัดโพธิ์ทองหนองจิก หมู่ 4 ตำบลกะทุ่ม อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบที่วัดมีการตั้งสวดอภิธรรมศพ น้องครีม ด.ญ อริสรา สุขขะ อายุ 11 ปี เกิดวันที่ 15 กันยายน 2551 และได้เสียชีวิตลงวันที่ 30 สิงหาคม 2563
ผู้สื่อข่าวได้คุยกับนายสุรพจน์ สุขขะ อายุ 31 ปี และ น.ส.รุ่งทิพย์ ทองพูน อายุ 31 ปี พ่อและแม่ซึ่งอยู่ในอาการเสียใจหลังจากสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียวไป กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากน้องครีม ไปโรงเรียน จากนั้นทางโรงเรียนได้ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ลูกสาว แต่ขณะนั้นลูกสาวมีไข้ วัดได้ตอนเช้า 39 องศา คุณครูจึงให้นอนพักจนกระทั่งช่วงประมาณบ่าย 2 โมง จึงให้น้องครีมไปเข้าแถวฉีดวัคซีน
โดยทางอนามัยมาทำการฉีดให้ จนช่วงเย็น อาของน้องครีม ก็ไปรับกลับบ้านตามปกติ (น้องอยู่กับอาและย่า) เนื่องจากพ่อกับแม่ทำงานจะกลับบ้านเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 4 โมงเย็น แม่จึงไปรับลูกสาวกลับมายังบ้านตนเองที่อยู่คนละตำบล
โดย น้องครีม บ่นว่ามีอาการคลื่นไส้เวียนหัวแน่นหน้าอก แม่ก็คิดว่าลูกป่วยธรรมดาจึงให้ลูกกินยาแล้วนอนพัก แม่ก็คอยถามอาการลูกซึ่งลูกสาวก็บอกว่าค่อยยังชั่วแล้ว จนกระทั่งเช้าวันเสาร์ ลูกก็ไปโรงเรียนตามปกติ กระทั่ง ช่วงประมาณ 08.00 น. คุณครูกลับมาส่งที่บ้านบอกว่าน้องครีมไม่สบายมาก ตนเองจึงพาลูกสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลมหาราช
จากนั้นได้มีการซักประวัติลูกสาว จึงบอกว่าทางโรงเรียนได้ฉีดวัคซีนให้พร้อมตรวจวัดอุณหภูมิไข้สูงถึง 39 องศา แล้วทางโรงพยาบาลมหาราช จึงมีการเจาะเลือดตรวจวัดไข้เลือดออก แต่ผลออกมาไม่พบ จึงจ่ายยาให้กลับมานอนพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งตนเองแปลกใจลูกสาวมีไข้สูงขนาดนี้ทำไมถึงไม่ยอมให้แอดมิดที่โรงพยาบาล ตนเองพาลูกสาวมานอนพักฟื้นที่บ้านซึ่งลูกสาวก็มีอาการอาเจียนไม่หยุด และแน่นหน้าอก ตนเองคอยถามและดูแลจนกระทั่งประมาณเที่ยงคืนของวันเสาร์ลูกสาว เริ่มอาเจียนหนัก เข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ ตนเองพยายามเรียก ลูกสาวไม่ขานตอบ จึงเปิดเข้าไปดูเห็นว่าลูกสาวหมดแรงสลบไป จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลมหาราช แพทย์พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจลูกสาวแต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ เสียชีวิตในเวลา 02.00 น . พร้อมระบุว่า ลูกเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจล้มเหลวกะทันหัน ซึ่งตนเองยังคงติดใจในการเสียชีวิตของลูกสาวครั้งนี้
เนื่องจากว่าลูกสาวไม่เคยมีโรคประจำตัวและก็ไม่เคยป่วย ครอบครัวเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนที่โรงเรียนในขณะที่ลูกสาวมีไข้สูงถึง 39 องศา แต่ทำไมทางโรงเรียนถึงยังฉีดวัคซีนให้ลูกสาวอีกเชื่อว่าลูกสาวอาจจะมีอาการแพ้ยาได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ทางโรงพยาบาลได้ส่งลูกสาวของตนไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ. ปทุมธานีเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต
ซึ่งขณะอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์นั้น ทาง ผอ.โและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้อยู่ที่โรงพยาบาลตนเองจึงได้สอบถาม ผอ. ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำไมไม่มีการวัดไข้ก่อนที่จะฉีดวัคซีนป้องกัน ทาง ผอ. จึงได้คุยโทรศัพท์สักพักก็บอกกับตนเองว่าทางโรงเรียนหรือทางเจ้าหน้าที่ได้มีการวัดไข้ก่อน ที่จะฉีดยา และหลังจากนั้น ไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย ส่วนตนเองนั้นได้สอบถามเด็กนักเรียนและเพื่อนๆ ได้รับคำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าตอนที่ฉีดยาป้องกันนั้นไม่มีการวัดไข้ก่อนหน้าเลย
อย่างไรก็ตาม ตนเองสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้แก่ตนเองและครอบครัว การสูญเสียครั้งนี้มันเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัว เนื่องจากตนเองมีลูกสาวเพียงคนเดียวและอยู่ในวัยที่กำลังน่ารัก เป็นที่รักของครอบครัวและเพื่อนบ้าน ตนเองจึงอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ลูกสาว และครอบครัว และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวไหนอีก และถ้าเกิดยังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตนเองก็จะยังไม่ยอมเผาศพลูกสาวเป็นเด็ดขาด
แต่เบื้องต้น ตนเองจะสวดอภิธรรมศพลูกสาวเป็นเวลา 7 วัน และอาจจะมีการฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ 6 ก.ย.63