พระนครศรีอยุธยา - หลายภาคส่วนเดินทางร่วมแสดงความเสียใจ ครอบครัวน้องครีม พ่อเชื่อเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกขณะที่กำลังเป็นไข้สูง ด้านสาธารณสุขแสดงความเสียใจ พร้อมสั่งชะลอการฉีดวัคซีนทั้งจังหวัดอยุธยา
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Surapot sukkha" โพสต์เรื่องราวสะเทือนใจว่า ด.ญ.อริสา หรือ น้องครีม สุขขะ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.มหาราช ลูกสาวของ ตัวเอง เสียชีวิตหลังจากทางโรงเรียนฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกให้โดยที่ไม่ได้ตรวจ วัดไข้ก่อน โดยหลังจากฉีดวัคซีน ลูกสาวเกิดอาการแน่นหน้าอก อาเจียน ก่อนจะอาการทรุดลงจนเสียชีวิต ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด ทางครอบครัวของน้องครีม เรียกร้องความเป็นธรรม หาผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยจะไม่ยอมเผาศพน้องตามข่าวที่นำเสนอไป
ล่าสุด วันนี้ (1 ก.ย. ) ที่ วัดโพธิ์ทองหนองจิก ม.4 ต.กะทุ่ม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ทางครอบครัว ของ ด.ญ.อริสา หรือน้องครีม สุขขะ ยังคงอยู่ในอาการเสียใจ โดยพบเพียง นางลั่นทม ท่านที อายุ 58 ปี ยาย นายพิษณุ ท่านที อายุ 52 ปี ตา นายสุรชัย สุขจะ อายุ 57 ปี ปู่ นางภิรมย์ สุขจะ 51 ปี ย่า ของน้องครีม ยังคงอยู่ในอาการเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนพ่อและแม่ นายสุรพจน์ สุขขะ อายุ 31 ปี น.ส.รุ่งทิพย์ ทองพูน อายุ 31 ปี ได้เดินทางไปออกรายการของสถานีโทรทัศน์ตั้งแต่ช่วงเช้า
ทั้งนี้ นายนิคม หอยแก้ว ปลัดอำเภอมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นตัวแทนของนายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนางนวลจันทร์ แย้มศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำพวงหรีดมาแสดงความเสียใจ พร้อมทั้งฝากแสดงความเสียใจ และห่วงใยกับทางครอบครัวของน้องครีมด้วย ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัว และให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว
ต่อมา นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ ผู้ตรวจราช กระทรวงสาธารณสุข เขต 4 ได้เดินทางมาพร้อมคณะ พร้อมกับ นพ.ณรงค์ ถวิลวิสาร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อแสดงความเสียใจ พร้อมเงินช่วยทำบุญให้แก่ครอบครัว
นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ ผู้ตรวจราช กระทรวงสาธารณสุข เขต 4 กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูล โดยวันนี้เดินทางมาด้วยความตั้งใจ เพื่อมาเคารพศพ แสดงความเสียใจกับครอบครัว พร้อมมอบเงินส่วนตัวร่วมทำบุญ ในส่วนของการเยียวยาของทางราชการมีกระบวนการขั้นตอน จะมีการประชุมกันอีกทีในช่วงบ่าย 3 โมงวันนี้ ส่วนการพูดคุยกับทางพื้นที่ได้มีการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เพราะเขาก็ทำตามหน้าที่ เป็นนโยบายที่เราจะต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเป็นมะเร็งปากมดลูก
เช่นเดียวกับ นพ.ณรงค์ ถวิลวิสาร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาแสดงความเสียใจพร้อมมอบเงินของทางสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรวมทำบุญบางส่วน พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมการเยียวยาให้แก่ครอบครัวของน้อง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลในการเดินเรื่องในสิทธิที่พึงได้รับ ในส่วนของสาเหตุอันนั้นต้องอาศัยผลจากการชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โดยละเอียด ไม่ใช่ผลเบื้องต้นตามที่มีการนำเสนอไปนั้น คงยังบอกรายละเอียดไม่ได้
ทั้งนี้ ในการฉีดวัคซีนตามมารตราฐานต้องดูสภาพของผู้ที่ได้รับการฉีด ว่า วันนั้นเขาเจ็บป่วย หรืออ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือว่าสงสัยว่าเจ็บป่วยหรือเปล่า เพราะทั่วไปต้องเลี่ยงไปก่อนอยู่แล้ว อันนี้เท่าที่ทราบน้องเขาปกติดี แต่ข้อมูลโดยละเอียดต้องไปรวบรวมอีกที
ต่อมา วันเดียวกัน นายประชุม พันธุ์เรือง รักษาการศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาพร้อมกับคณะและ น.ส.จินตนา จุงใจ ผอ.โรงเรียนวัดบางสงบ เพื่อแสดงความเสียใจพร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ครอบครัว
นายประชุม พันธุ์เรือง รักษาการศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ให้ทางโรงเรียนนำโดย ผอ.โรงเรียนตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ขึ้นอยู่กับทางโรงเรียนว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าใด
ทั้งนี้ ได้มีเอกสารจากทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชี้แจงกรณีการเสียชีวิตภายหลังได้รับวัคซีนสร้างเสริมภูมิคุมกันโรคมะเร็งปากมดลูกของเด็กหญิง อายุ 11 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลกะทุ่ม อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังศึกษาชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอมหาราช ผู้ปกครองให้ประวัติว่าเด็กได้รับวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก เข็มที่ 2
โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในวันที่ 28 สิหาคม 2563 (ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการฉีดวัคซีนตามรอบปกติของโรงเรียน และได้ดำเนินการฉีดรอบที่ 1 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ) จากนั้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2563 เวลา 13.18 น. ผู้ปกครองได้พาเด็กมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราช ด้วยอาการมีไข้ อาเจียน ง่วงซึม เป็นมา 1 วัน แพทย์ได้ให้การรักษา สังเกตอาการ จ่ายยาและให้กลับบ้าน และเมื่อเวลา 02.12 น. ญาตินำตัวผู้ป่วยมาที่ห้องฉุกเฉิน แพทย์และพยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจอย่างสุดความสามารถ ไม่สามารถฟื้นคืนชีพ จากนั้นญาติได้ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งในความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน จากสำนักควบคุมโรคที่ 4 เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง
พร้อมทั้งสั่งการให้โรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชะลอการฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกไว้ก่อน และได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตามระเบียบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือตามมาตรา 41 จึงขอแจ้งให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ประชาชนที่ติดตามข่าว รวมทั้งสื่อมวลชนที่มีความกังวล ได้ทราบว่าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะดำเนินการเพื่อความเป็นธรรมในเรื่องนี้