ลำปาง - ตำรวจส่งฟ้องพระไลน์จีบครู-แอบถ่ายโพสต์โซเชียลฯ แล้ว 1 คดี 5 ข้อหา เข้าคิวสอบอีก 1 คดี 5 ข้อหา ขณะที่ มจร.ลำปางเตรียมประชุมพิจารณาสถานะนิสิตพรุ่งนี้ ขณะที่พระต้นเหตุยังไลฟ์ไม่หยุด
ความคืบหน้ากรณีพระอำพล ซึ่งเป็นพระนิสิต ศึกษาอยู่ที่ มจร.ลำปาง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่งข้อความ-คลิปอานาจารทางไลน์ อินบ็อกซ์ face book จีบอาจารย์สาว แม้อาจารย์จะว่ากล่าวตักเตือนแต่ก็ไม่ยอมหยุด ยังคงมีการส่งคลิป และใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมกับอาจารย์เรื่อยมา
นอกจากนี้ยังนำข้อความไม่เหมาะสมและรูปภาพของอาจารย์เผยแพร่ในช่องยูทูปของตัวเอง ทำให้อาจารย์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากข้อความดังกล่าวทำให้ผู้อ่านอาจเข้าใจว่าอาจารย์สาวเคยมีใจให้พระและกลัวภัยที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองเนื่องจากพระมีการรีวิวอาวุธปืนชนิดต่างๆ ด้วย จนอาจารย์ตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วถึง 2 คดี
บ่ายวันนี้ (30 ส.ค.) ดร.จีรศักดิ์ ปันลำ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางพระนิสิต กับอาจารย์ก็ไม่ได้รู้จักกัน กระทั่งอาจารย์ผู้เสียหาย ซึ่งปกติจะสอนพระพุทธศาสนาและจิตวิทยาแนะแนว และมารับตำแหน่งหัวหน้างานกิจการนิสิต ซึ่งต้องดูแลประสานงานกับนิสิตที่ใกล้จะจบเรื่องการฝึกงาน การปฏิบัติศาสนกิจ การบริการสังคม ซึ่งพระนิสิตได้ขอเบอร์อาจารย์เพื่อจะติดต่อเรื่องการจบดังกล่าว
แต่เมื่อได้เบอร์ไปแล้วพระนิสิตกลับโทรศัพท์หาทั้งกลางวัน กลางคืน ดึกดื่น จนอาจารย์ทนไม่ได้มารายงานผู้บริหาร ก็คิดว่าเรื่องจะจบ แต่พระนิสิตก็ยังไม่หยุด ยังเขียนข้อความส่งให้อาจารย์ในทางชู้สาว อาจารย์เตือนก็ไม่หยุด สุดท้ายก็ต้องด่าให้เจ็บบ้างก็ยังไม่หยุด
ช่วงแรกผู้บริหารก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรรุนแรง แต่เมื่อวานนี้หลังเป็นข่าวจึงพบว่าพระมีการนำเรื่องต่างๆ ไปลงเผยแพร่สาธารณะช่องยูทูป มีการรีวิวอาวุธและอื่นๆ อีกจำนวนมาก จึงได้มีการพูดคุยกันว่าในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) จะได้เชิญคณะกรรมการมาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาถึงความเป็นนิสิตของพระรูปดังกล่าวตามระเบียบของ มจร. เนื่องจากที่ผ่านมาพระยังไม่จบเพราะติด I หรือ F และมีการหยุดยาวไปเกือบ 1 ปีแล้ว และเพิ่งกลับมาขอซ่อม และหากมีพฤติกรรมดังกล่าวก็อาจจะต้องให้พ้นสภาพความเป็นนิสิตไป ส่วนตัวอาจารย์ ทาง มจร.ก็ได้มีการพูดคุยให้กำลังใจกัน เพราะในสถานที่แห่งนี้เราไม่รู้ว่าใครมีความคิดอย่างไรมาจากหลายพ่อหลายแม่ แต่ด้านความปลอดภัยก็ได้ให้ตำรวจมาคอยตรวจตราแล้ว
ขณะที่ทางด้านอาจารย์ผู้เสียหายบอกว่าขณะนี้พระก็ยังไม่หยุด ยังคงมีการไฟล์แชร์เรื่องต่างๆ ลงในยูทูปของตัวเองตลอดเวลา สิ่งที่ตนเป็นห่วงหลังจากนี้คือไม่ทราบว่าคณะสงฆ์จะดำเนินการอย่างไรต่อพระรูปนี้ ก่อนหน้ามีคนเป็นห่วงตนเองเรื่องความปลอดภัย เพราะพระมีการรีวิวอาวุธปืน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม แต่ถามตำรวจแล้ว ตำรวจยืนยันว่ามีทั้งปืนจริงและปืนปลอม
“เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะเอาอาวุธนั้นมาทำร้ายเราเมื่อไหร่ เพราะมีพระครูรูปหนึ่งบอกว่าพระรูปนั้นเคยขู่ไว้ว่าหากเขาไม่ได้รับปริญญาหรือเรียนไม่จบหรือถ้าเขาหมดอนาคตเขาก็จะให้หนูหมดอนาคตภายใน 1 วินาที ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาจะทำอันตรายต่อเราเมื่อไหร่”
และสิ่งที่กังวลมากกว่านี้คือการบูลลีจากสังคม คนที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ดูเฉพาะที่เราด่าเขาด้วยถ้อยคำเสียหาย อยากให้มองว่าก่อนหน้านั้นเขาได้ส่งอะไรมาให้เรา เหมาะสมหรือไม่ต่อความเป็นพระ เมื่อทำสิ่งนั้นเราก็ไม่ได้มองแล้วว่าเขาเป็นพระ เพียงแค่นุ่งผ้าเหลือง ห่มเหลืองเท่านั้นแต่จิตใจไม่ใช่แล้ว เพราะเราก็เตือนเขาด้วยถ้อยคำสุภาพก็แล้ว หยาบคายก็แล้ว แต่ก็ไม่หยุด สิ่งที่ต้องการให้เขาทำตอนนี้คือให้หยุดทุกอย่าง และลบทุกคลิป เพื่อไม่ให้เป็นการประณามตัวเขาเองและไม่ให้เสื่อมเสียไปมากกว่านี้
พ่อของผู้เสียหายบอกว่า ตนได้แค่ให้กำลังใจลูก แต่รู้ว่าลูกเป็นคนเข้มแข็ง เพราะครอบครัวสอนให้ลูกเป็นคนเข้มแข็งและไม่กลัวใคร หากลูกไม่ผิดก็ให้สู้เต็มที่ ซึ่งเขาก็สู้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาถูกกระทำ เหตุการณ์ลักษณะนี้หากผู้ถูกกระทำเป็นคนหัวอ่อนก็คงยอมเขาไปแล้ว แต่กับลูกเราเขาไม่ยอม เมื่อเขาถูกเขาก็สู้เต็มที่ เขาเป็นคนรวบรวมหลักฐานทุกอย่างไปแจ้งความเองทั้งหมดด้วยตัวเอง
ด้าน พ.ต.อ.กฤษฎา พงษ์สุวรรณ ผกก.สภ.เกาะคา ได้เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายมาแจ้งความ รวมแล้ว 2 ครั้ง 2 คดี คดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการฟ้องแล้วรวม 5 ข้อหา คือ 1. หมิ่นประมาท โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพ หรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น
2. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ 3. เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประขาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
4. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย 5. กระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ
ส่วนคดีที่ 2 พนักงาานสอบสวนได้ตั้งข้อหาแล้ว 5 ข้อหาเช่นเดียวกัน แต่ได้แจ้งข้อหาแล้ว 1 ข้อหา คือ 1. หมิ่นประมาท โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพ หรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ส่วนข้อหาที่ 2-5 นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยขั้นตอนคือส่งข้อมูลไปทาง ปอท.ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เมื่อได้รับข้อมูลแล้วทางพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและส่งอัยการฟ้องต่อไป
ส่วนพระอำพล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา เมื่อ 26 พฤษภาคม 2563 ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาหลังทางพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกไปรอบที่ 2 โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น
จากการตรวจสอบช่องยูทูปในชื่อ Thebiggeorge ซึ่งเป็นของพระอำพล ยังพบว่าคงยังมีการไลฟ์สด ต่อว่าหลายคนไม่หยุด โดยเมื่อเช้าวันนี้ยังคงไลฟ์ในหัวข้อ ขออนุญาตชี้แจงอธิบายด้วยเหตุด้วยผลที่กลายเป็นข่าว! ก็ยังคงพูดจาวกวนนานกว่า 2 ชั่วโมง และพาดพิงไปหลายฝ่าย โดยอ้างว่าการเสนอข่าวเป็นเพียงมุมมองฝ่ายเดียว และยังโทษครูว่ามีส่วนทำให้เกิดเรื่องนี้และถามว่าครูเสียหายอะไรมากมาย และการที่สื่อนำข่าวนี้ไปนำเสนอเพราะต้องการเรตติ้งอีกด้วย