ลำปาง - คืบหน้าพระนิสิต มจร.ไลน์จีบครูสาว..เจ้าคณะจังหวัดลำปางเผยแจ้งพระอุปัชฌาย์ให้สึกแล้ว แต่พบเจ้าตัวไปอยู่วัดจังหวัดอื่นยังไม่กลับเข้าพื้นที่ ย้ำพฤติกรรมไม่สมควรเป็นพระจริง-ต้องสึกอย่างเดียว แนะทุกวัดไม่ควรให้พำนัก
ความคืบหน้ากรณีพระอำพล ซึ่งเป็นพระนิสิต ศึกษาอยู่ที่ มจร.ลำปาง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่งข้อความ-คลิปอานาจารผ่านทางไลน์-อินบ็อกซ์ face book จีบอาจารย์สาว แม้อาจารย์จะว่ากล่าวตักเตือนแต่ก็ไม่ยอมหยุด และยังมีการนำข้อความไม่เหมาะสม-รูปภาพของอาจารย์นำไปลงในช่องยูทูป ทำให้อาจารย์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากข้อความดังกล่าวทำให้ผู้อ่านอาจเข้าใจว่าอาจารย์สาวเคยมีใจให้พระ รวมทั้งกลัวภัยที่จะเกิดขึ้นแก่ตัวเอง จนอาจารย์สาวต้องเข้าแจ้งความแล้วถึง 2 คดี ตำรวจส่งฟ้อง 1 คดี 5 ข้อหา อีก 1 คดีเตรียมฟ้องอีก 5 ข้อหานั้น
วันนี้ (31 ส.ค.) พระจินดารัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง เจ้าอาวาสวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวง จังหวัดลำปาง เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทางคณะสงฆ์ได้ให้สอบสวนพระอำพล สุชาโต พบว่าสังกัดวัดห้วยคิง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยเจ้าคณะอำเภอแม่เมาะ วัดห้วยคิง เป็นพระอุปัชฌาย์ ทำการอุปสมบทให้มาหลายปี มีมาตุภูมิอยู่ที่จังหวัดเชียงราย มาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง และได้ให้ทางเจ้าคณะอำเภอแม่เมาะทำรายงานมา แต่ทราบว่าขณะนี้พระอำพลได้หนีออกจากจังหวัดลำปางไปจังหวัดอื่น
ทางด้านพระธรรมวินัยก็มีหลักฐานปรากฏชัดอยู่แล้วเป็นเอกสาร รูปภาพ ถือว่าผิดพระธรรมวินัยจะขั้นไหนก็ต้องว่ากันอีกครั้ง แต่ถึงขั้นนี้แล้วคงเอาไว้ไม่ได้ต้องสึกสถานเดียว เพราะดูแล้วไม่ใช่การพูดจาแบบพระ แต่เป็นการพูดจาลักษณะของฆราวาสคุยกัน ทางคณะสงฆ์คงเอาไว้ไม่ได้
แต่ติดอยู่ที่ว่าขณะนี้พระรูปนี้ไม่ได้อยู่ในจังหวัดลำปาง และอยู่ช่วงเข้าพรรษา การที่จะให้พระออกสอบสวนตามหาก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร แต่หากกลับเข้ามาในพื้นที่ก็คงต้องดำเนินการสึกทันที เพราะเป็นภาพที่เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม แม้ว่าการกระทำครั้งนี้จะเป็นความผิดส่วนตัว แต่ไม่เหมาะสมกับสมณสารูปของความเป็นพระ
“ขอให้ญาติโยมทั้งหลายได้เข้าใจว่าคณะสงฆ์นั้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ติดว่าได้หนีออกจากพื้นที่ไป และพระก็ยังออกสื่อหลายๆ ช่องทาง ยิ่งออกสื่อก็ยิ่งไม่เหมาะไม่ควร ตัวเองทำผิดแต่ไม่รู้ว่าตัวเองผิดนี่ก็เป็นภาพที่เสียหาย หากพระวัดอื่นที่ได้เห็นจากข่าวนี้แล้วที่ให้ที่พักหรือที่พำนักก็ไม่ควรที่จะให้ที่พักที่อาศัยแก่พระรูปนี้ เพราะหากกระทำผิดที่นี่แล้วไปอยู่ที่อื่นก็อาจจะไปทำผิดในลักษณะเดียวกันที่อื่นๆ ไปเรื่อยๆก็จะไม่เหมาะไม่ควร”
ทั้งนี้ เจ้าคณะจังหวัดลำปางยังได้พูดถึงพระกับการใช้สื่อออนไลน์ว่าหากนำมาใช้ในเรื่องพระพุทธศาสนาก็จะเป็นเรื่องที่ดีได้ประโยชน์ สำหรับพระรูปดังกล่าวที่ได้ดูแล้วก็ยอมรับความสามารถด้านนี้ แต่นำมาใช้ในทางที่ผิด ไม่สมควรไม่เหมาะสม หากนำมาใช้ให้ถูกก็จะเป็นประโยชน์
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้พระรูปดังกล่าวก็ยังไม่หยุดการโพสต์คลิปต่างๆ โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ได้มีการนำคลิปเดิมที่ครูสาวต่อว่ามาลงอีกครั้ง พร้อมทั้งนำคลิปเสียงที่มีการสนทนากับครูสาวอีกท่านหนึ่งในมหาวิทยาลัยฯ ที่อ้างว่าเป็นพยานให้ตนเองขณะพูดคุยกันและกล่าวถึงครูสาวผู้เสียหายในทางลบมาลงในยูทูปช่องของตัวเอง พร้อมทั้งนำคำสนทนาของตนเองและตำรวจระหว่างเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหามาลงในช่องยูทูปอีกด้วย