สุรินทร์ - ผู้ใหญ่บ้านเมืองช้างหื่นซาดิสต์ ทำอนาจารกัดดูดหลานสาวฟกช้ำทั่วตัว โผล่พบตำรวจแล้ว แต่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธขอสู้ในชั้นศาล ด้านนายอำเภอสนมเต้น สั่งปลัดสอบข้อเท็จจริงหากมีมูลเสนอผู้ว่าฯ ตั้ง กก.สอบฟันวินัยร้ายแรง ขณะเหยื่อยันพูดความจริง ย้ำขอความเป็นธรรม
วันนี้ (23 ส.ค.) ความคืบหน้ากรณี น.ส.อัม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ชาวบ้านหนองเหล็ก ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.63 ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า นายสามารถ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง ม.13 ต.แคน อ.สนม ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ลวนลามกระทำอนาจารกับร่างกายด้วยการกัดดูดจนมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณหน้าอก คอ แขน ไหล่ แผ่นหลัง และแก้ม หลังจากไปร่วมนั่งดื่มเบียร์ด้วยกัน พร้อมขู่ฆ่าให้ตายหากแจ้งความดำเนินคดี ผู้เสียหายเกรงจะถูกทำร้ายและไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ เวลา 09.30 น. พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม เจ้าของคดี ได้เรียกผู้เสียหายเข้าไปสอบสวนและนำหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวน และเวลา 11.40 น. น.ส.วันเพ็ญ หาญเสมอ นายอำเภอสนม ได้เชิญผู้เสียหายเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะเรียกตัวผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนอีกครั้งเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย เพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป
ต่อมา เวลา 12.00 น. ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ได้แสดงตัวเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด ซึ่งตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบเสียก่อน โดยในเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหาได้ให้การปฏิเสธ พร้อมขอสู้คดีในชั้นศาลก่อนออกจากห้องสอบสวนเวลาประมาณ 13.00 น. และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า มีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวเกินความจริง โจมตีตนเองฝ่ายเดียว ตนขอสู้คดี เอาความถูกต้องไปวัดกันที่ชั้นศาล
ด้าน น.ส.วันเพ็ญ หาญเสมอ นายอำเภอสนม กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ และทางสถานีตำรวจ สภ.สนม ได้รายงานข้อมูลให้ทราบ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาวันนี้เป็นวันหยุดตนได้สั่งการให้ปลัดอำเภอที่รับผิดชอบงานปกครองดูแลในเรื่องวินัยกำนันผู้ใหญ่บ้านสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งปกติจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จริงก่อน ถ้ามีมูลหากจะต้องสอบวินัยต้องเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งหากถึงขั้นต้องลงโทษทางวินัย จะเสนอผู้ว่าฯ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป แต่วันนี้เรายังไม่ได้ตั้งกรรมการสอบ แต่ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอที่รับผิดชอบสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้น ได้เรียกผู้เสียหายมาสอบก่อน ถ้าเห็นว่ามีมูลมีหลักฐานเชื่อถือได้ว่าผู้ใหญ่บ้านทำผิดจริง ขั้นตอนต่อไปเราก็จะเสนอตั้งกรรมการสอบวินัยต่อผู้ว่าฯ ต่อไป
หากว่าผิดวันนัยร้ายแรงก็จะถูกปลดออก ไล่ออก ซึ่งกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องรักษาวินัยเหมือนข้าราชการพลเรือนทุกอย่าง ทางผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดีกรมการปกครอง ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สอบถามผู้ใต้บังคับบัญชามาทุกระดับเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ซึ่งทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสนม ไม่สบายใจในการจะแสดงจุดยืนอย่างไรเพื่อไม่ให้สังคมมองไม่ดี หากมีความผิดจริงก็ไม่มีการปกป้อง ซึ่งกังวลในภาพลักษณ์ของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเช่นกัน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า เราจะให้ความเป็นธรมกฝ่าย
ขณะที่ น.ส.อัม ผู้เสียหาย กล่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านเขามีศักดิ์เป็นอา กินดื่มด้วยกันมาตลอด จึงรู้นิสัยลึกๆ และรู้สึกกลัว และเขาก็ไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาทำด้วย แต่ตนพูดความจริงและขอความเป็นธรรมให้แก่ตนเองด้วย
