สุรินทร์ - หลานสาวเมืองช้างวัย 35 ร้องถูกอาเป็นผู้ใหญ่บ้านหื่นซาดิสต์ฉวยโอกาสขณะเมาเบียร์ ลวนลาม ถอดเสื้อผ้ากัดแขน คอ หน้าอกเขียวช้ำเจ็บหนักและถ่ายภาพไว้โชว์ เผยเห็นเป็นผู้ใหญ่บ้านและเป็นอาที่เคารพนับถือจึงร่วมวงดื่มเบียร์หลังเมาหลับฉวยโอกาส โร่แจ้งความเจอขู่ฆ่า
วันนี้ (22 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.อัม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ชาวบ้านสำโรง ม.12 ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ ว่าเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมาได้ถูกนายสามารถ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ใหญ่บ้านบ้านสำโรง และมีศักดิ์เป็นอา ที่ตนเคารพนับถือได้ชวนดื่มเบียร์ภายในร้านค้าหมู่บ้าน โดยตนกับเพื่อนได้นั่งดื่มกันอยู่ก่อนแล้วจึงได้ร่วมวงดื่มด้วย และดื่มหมดไปหลายขวด กระทั่งเวลาบ่ายนายสามารถได้ชวนไปดื่มต่อที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านค้าดังกล่าว
กระทั่งมืดค่ำเวลาประมาณ 1-2 ทุ่ม ตนเมาเบียร์มากจึงเข้าไปนอนในบ้านหลังที่ดื่มกันอยู่ซึ่งมีญาติอยู่ด้วยและหลับไปโดยไม่รู้ตัว มารู้สึกตัวอีกทีเพราะเจ็บปวดตามร่างกาย และพบว่าเสื้อผ้าถูกถอดออกไปหมดเหลือแต่กางเกงใน พอมองไปข้างกายพบนายสามารถเปลือยกายเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวนอนอยู่ด้วย ตนพยายามตั้งสติปัดป้องเพื่อป้องกันตัวเองพร้อมวิงวอนขอร้องให้นายสามารถหยุดทำร้าย และรีบสวมใส่เสื้อผ้ากระโดดลงหลังบ้านหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อกลับมาที่บ้านส่องกระจกสำรวจดูตามร่างกายพบว่า แขน คอ แก้ม และหน้าอก รวมทั้งหลัง ถูกกัดเขียวช้ำไปหมด
พอรุ่งเช้าวันต่อมา ตนได้รับโทรศัพท์ส่งแชตมาพร้อมกับรูปภาพที่นายสามารถบันทึกเอาไว้มาให้ตนดู พร้อมข่มขู่ว่าหากไปแจ้งความจะส่งภาพดังกล่าวไปประจานให้ชาวบ้านและเพื่อนๆ ดูทำให้ตนเกรงกลัว จึงได้ไปปรึกษาพ่อเพื่อให้พาไปแจ้งความที่ สภ.สนม หรือไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสนม เพราะนายสามารถเคยทำเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงมาแล้วหลายคน จึงคิดว่าหากปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปไม่มีการดำเนินการใดๆ นายสามารถจะไปก่อเหตุกับผู้หญิงคนอื่นอีก อีกทั้งเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อไปทำอะไรไว้ก็ไม่มีใครกล้าไปแจ้งความดำเนินคดี ตนจึงตัดสินใจปรึกษาพ่อและแม่ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ โดยมี พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม รับเรื่องไว้และให้ตนไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
หลังจากที่เดินทางไปแจ้งความไว้แล้ว นายสามารถได้โทรศัพท์มาข่มขู่พร้อมกับบอกว่าหากตนมีเรื่องไปแจ้งความที่โรงพักจะฆ่าให้ตาย ทำให้ตนกลัวว่าจะได้รับอันตราย ไม่รู้จะไปพึ่งใครจึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน และขอให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงอีกทางหนึ่งว่าหากตนและครอบครัวเป็นอะไรไปจะมีเพียงผู้ใหญ่บ้านคนนี้คนเดียวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับ พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ ได้รับคำตอบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเชิญผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหามาคุยเจรจากันในวันพรุ่งนี้ แต่ทางพ่อของ น.ส.อัมพรพรรณ ไม่ยอมเจรจา ยืนยันจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด