"แบงค์ ธิติ" ไม่อยากให้โทษใคร เปิดใจร้อง "รักติดไซเรน" เพี้ยนยกแก๊งเพราะซ้อมมาน้อย หลังจากถูกวิจารณ์ถึงใจ ซุ่มฝึกร้องเพลง ขำๆ คนไม่ปลื้มตอนจบ รักฉุดใจฯ ถึงขนาดจะไปเผานาดาว อนาคตอยากเล่นบทแดง ไบเล่, ปุ๊ ระเบิดขวด ไม่ได้ซาดิสต์ แต่แฮปปี้ได้รับบทท้าทาย อย่าเปรียบฝีมือ "โจ๊กเกอร์" ยังห่างชั้นกัน
ยังถูกวิจารณ์สนั่น สำหรับกรณี แพรวา ณิชาภัทร, ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร, เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม และ แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์ มาร่วมฟีเจอริ่งกันในเพลงสุดฮิตอย่าง "รักติดไซเรน" เวอร์ชั่นร้องสด แต่กลับเพี้ยนและร้องหลุดคีย์กันทั้งแก๊ง ทำเอาชาวเน็ตต่างพากันออกมาวิเคราะห์ว่าใครกันพาเพื่อนล่ม
ล่าสุดแบงค์ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวในงานเปิดตัวบัตรเครดิต แพลทินั่ม สวัสดีธนาคารกรุงเทพ ณ ลานลิฟต์แก้ว ชั้น1 เซ็นทรัลเวิลด์ ยอมรับว่าหลังถูกวิจารณ์ มีการไปฝึกร้องเพลง ยอมรับว่าตอนนั้นร้องเพี้ยนจริง เพราะตื่นเต้น เนื่องจากซ้อมกันน้อย
"ก็พอหลังจากนั้นระยะเวลามันก็ผ่านมาสักพักนะครับ เราก็ได้มีการไปฝึกเรียนร้องเพลงเพิ่มขึ้น และถ้าเกิดใครได้เห็นแพรวาออกงาน เขาก็ได้ไปเรียนร้องเพลง ซึ่งผมว่าก็ทำได้ดีกว่าตอนที่เราเกิดผิดพลาดขึ้นมาตอนนั้นครับ วันนั้นก็ร้องผิดพลาดด้วยครับ และด้วยความตื่นเต้นของพวกเราด้วย เพราะการร้องหลายๆ คนก็อาจจะมีการที่เราซ้อมน้อยกันด้วย”
"เรา 4 คนไม่เคยร้องด้วยกันมาก่อน เพลงนี้ต้นฉบับก็คือแพรวากับไอซ์ พาริส ใช่ไหมครับ และพอเราทั้ง 4 คนมาร้องก็เป็นอย่างที่เห็น ตอนร้องก็สัมผัสได้ว่าเพี้ยนครับ แต่พอเราอยู่ตรงนั้นเราก็ต้องทำให้เต็มที่ และทำให้โชว์มันไปได้ จริงๆ เราก็ร้องได้ แต่เขาอยากให้ผมเต้นมากกว่า"
ยิ่งเป็นแรงผลัก จะปรับปรุงเแก้ไข ทำออกมาให้ดี
"มันเป็นแรงผลักดันให้พวกเรามากกว่าครับ พอมันเป็นสิ่งที่เคยผิดพลาดมา สุดท้ายแล้วการร้องเพลงมันก็เป็นสิ่งที่พวกเราอยากจะพิสูจน์ว่าถึงเราจะเป็นนักแสดง แต่เราก็ตั้งใจที่จะทำตรงนี้ และเราก็มีการปรับปรุงแก้ไข และจะทำมันออกมาให้ดี ให้แฟนๆ ได้เห็นกันอีก"
ไม่มีใครซ้ำเติมใคร
"หลังจากวันนั้น พวกเราก็คุยกันครับ ผมก็ส่งคลิปให้เจเจดู เจเจก็หัวเราะกลับมา คือเราไม่อยากโทษว่าใครคือต้นเหตุ เราให้กำลังใจดีกว่า คือผมไม่รู้ว่าพอเราเกิดข้อผิดพลาดแล้วจะมาซ้ำเติมกันทำไม เราควรที่จะให้กำลังใจกันและทำตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จะให้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่าเราก็สามารถทำได้"
ขำๆ คอมเมนต์รุนแรง แสดงความคิดเห็นกันถึงใจ
"มีครับ ก็ลองอ่านดูบ้างว่าฟีดแบ็กเป็นยังไง ก็รุนแรงดีครับ ผมรู้สึกว่าคนเราก็แสดงความคิดเห็นกันถึงใจดีครับ แต่ผมก็มองว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคลมากกว่า และในโลกโซเชียลก็เป็นพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว ใครจะแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ตามที่เขารู้สึกเลยครับ"
"เราก็รับมือได้ครับ เพราะเรามีเป้าหมายในใจอยู่แล้วว่าเราต้องทำมันออกมาเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไป เรื่องคอมเมนต์มันเป็นสิทธิของเขาครับ เราไม่สามารถที่จะไปบอกเขาได้ว่าแรงไปหรือเปล่า"
ตอนจบ รักฉุดใจ นายฉุกเฉิน โดนคอมเมนต์ไปด้วย
"ใช่ครับ ผมไปฆ่าหมอเต่า แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ผมอยากให้น้องหมอกับทานตะวันตายแค่นั้น ตามบทที่เขียนไว้ ตามความต้องการของตัวละครนะครับ แต่ด้วยอุบัติเหตุก็ทำให้เกิดความผิดพลาด ทำให้น้องหมอเต่าตาย ผมก็เสียใจ ตอนที่ดูก็นั่งร้องไห้เหมือนกัน พอถึงตอนท้าย ไทก็รู้สึกผิดแล้ว และการที่ได้ทำอะไรไปก็ได้บทเรียนจากเรื่องนี้แหละครับ ก็อย่างที่ผมได้โพสต์ในไอจีส่วนตัวว่าหวังว่าหลายๆ คนก็จะได้บทเรียนจากตัวละครตัวนี้นะครับ"
"คนชมว่าเราเล่นเรื่องนี้ได้ดีมากครับ เป็นบทที่ท้าทายเราด้วย อีกอย่างเราก็อยากลองบทบาทแบบนี้อยู่แล้ว เพราะไม่เคยได้มีโอกาสทำอะไรแบบนี้ พอได้บทนี้มาก็รู้สึกว่ามันได้ท้าทายความสามารถในการแสดงของเรา เราก็รู้สึกอยากทำออกมาให้เต็มที่และเต็มความสามารถ"
"ทำการบ้านเยอะมากนะครับ ผมค่อนข้างที่จะจิตตกไปช่วงนึงเลย เพราะพอเป็นคาแรคเตอร์ที่ต้องสูญเสียน้องสาวไป และพอเรามีน้องสาวเราก็ค่อนข้างที่จะอินกับคาแรคเตอร์นี้เหมือนกัน เพราะเรื่องนี้ต้องป่วยทางจิตด้วย เพราะเขาไม่เหลือใครในโลกนี้แล้ว คิดดูสิว่าเราจะทำยังไง แล้วอยู่ๆ ก็ต้องโดนส่งไปอยู่ที่เชียงใหม่กับแม่ของใครก็ไม่รู้ ก็จะมีจิตตกแว๊บๆ มา แต่พอเรามีแอ็กติ้งโค้ช มีครูสอนการแสดง เขาก็จะคอยบอกให้เรารู้ว่าอันไหนคือตัวเรา อันไหนคือคาแรคเตอร์ มีติดไปใช้ในชีวิตจริงครับ คือผมรู้สึกว่าผมอยากทำมันออกมาให้คนลืมภาพเดิมๆ ผมอยากเข้าให้ถึงตัวละครตัวนี้จริงๆ ก็เลยมีการเรียนการแสดงค่อนข้างที่จะหนักเลย"
ชอบบทแบบนี้เพราะท้าทาย
"ชอบมาก คือไม่ได้ติดใจกับบทซาดิสต์นะ แต่ผมรู้สึกว่ามันท้าทายดี และอีกอย่างคือเราได้จัดการกับตัวเราด้วย และข้อดีของการเป็นนักแสดงก็คือเราได้รู้สึกถึงการสูญเสียว่าเป็นยังไง เราจะได้เข้าใจโลกนี้มากขึ้นด้วย ส่วนกระแสความคาดหวังในเรื่องต่อๆ ไป ผมมองว่ามันเป็นความท้าทายมากกว่า และมันก็เป็นความสนุก เพราะถ้าเราทำอะไรแต่เดิมๆ ก็คงน่าเบื่อ"
อย่าไปเผานาดาว เพราะตอนนี้ "ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์" ยังอยู่ต่างประเทศ
"อย่าไปเผาเลยครับ ผมยังอยากทำงานอยู่ และข้อมูลในนั้นก็ค่อนข้างเยอะเหมือนกันครับ (หัวเราะ) แต่พี่ย้ง ตอนนี้อยู่ต่างประเทศนะครับ คนคอมเมนต์เขาก็คงอินกับบทแหละครับ ก็ดีใจที่ทุกคนอินนะครับ หวังว่าจะติดตามผลงานของพวกเราต่อๆ ไปครับ"
อยากเล่นเป็นแดง ไบเล่ , ปุ๊ ระเบิดขวด
"ถามว่าอยากรับบทแบบไหนอีก ล่าสุดเพิ่งอ่านเรื่องอันธพาล 2499 มา ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองเป็นปุ๊ ระเบิดขวด เป็นแดง ไบเล่ดูบ้าง น่าจะสนุกดี ก็ไม่ขนาดอยากเล่นบทร้ายครับ มันเป็นแค่สิ่งที่นักแสดงก็อยากลองทำหลายๆ บทบาทอยู่แล้ว"
"เรื่องรักฉุดใจฯ ก็สอนหลายอย่างนะครับ อย่างแรกก็คือเรื่องการเล่นฟิตเนสเพราะต้องถอดเสื้อในเรื่องนี้ก็ค่อนข้างยากแล้วเหมือนกัน และอีกอย่างเรื่องของคาแรคเตอร์ เรื่องของบทบาทไทมันก็สอนให้เรารู้สึกแคร์คนรอบข้างมากขึ้น อย่างเช่นประโยคที่ว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เรื่องนี้ก็ได้เห็นแล้วว่าการที่เราจองเวรกันมันเป็นยังไง"
ไม่อยากให้เปรียบเทียบ "โจ๊กเกอร์" ฝีมือยังห่างชั้นกัน
"ผมยังห่างชั้นกับโจ๊กเกอร์เยอะมากๆ เพราะการแสดงเขาค่อนข้างโหดมากเหมือนกัน ถ้าเรามีโอกาสก็อยากรับบทอะไรแบบนั้นเหมือนกันครับ ก็มีติดคาแรคเตอร์มาบ้างครับในช่วงแรก แต่เรารู้ว่าอันไหนคือความคิดของคาแรคเตอร์ อันไหนคือความคิดของตัวเรา ตอนช่วงแรกๆ ผมยังติดเดินเป๋อยู่เลย เพราะผมกลัวจะแสดงไม่เหมือน เพราะในบทต้องประสบอุบัติเหตุจนขาเราเป๋ ก็เลยลองใช้ในชีวิตประจำวันตัวเองดูว่าจะเป็นยังไง"
ลั่นอยู่ทีมหมอเป้ง ดูมีอนาคต
"ส่วนตัวผมทีมหมอเป้งนะ เพราะผมรู้สึกว่าทานตะวันผ่านอะไรกับหมอเป้งมาเยอะ แล้วก็รู้สึกว่าดูมีอนาคต เพราะว่าน้องหมอเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง แต่ก็แล้วแต่มุมมองคนครับ คนเราก็เลือกแสดงความคิดเห็นได้อยู่แล้วว่าชอบตอนจบแบบไหน แต่พอละครทำตอนจบออกมาแบบนั้นก็ต้องจบอย่างนั้นครับ"
ไม่ค่อยมีเวลาเข้าฟิตเนส เผละแล้ว
"ก็ถ้ามีเวลาครับ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเท่าไหร่ เพราะว่าทำงานเยอะเหมือนกัน ซิกแพ็กยังอยู่ครับ เราเล่นมาแทบตาย หายไปอาทิตย์เดียวก็หายหมดแล้ว ตอนนี้ผมก็เผละแล้วเนี่ย"
