เพชรบูรณ์ - เจ้าของรีสอร์ตดังแฉกลางวงประชุม กมธ.ป.ป.ช. ชื่อนายทุน-อดีต ขรก.-คนนามสกุลใหญ่โต โผล่บัญชี คทช.เขาค้อ แถมมีอดีตรองอธิบดีป่าไม้ซื้อที่เขาค้อแบ่งขาย 5 ไร่ คนซื้อต่อโดนจับ-ตัวเองรอด เปิดรีสอร์ตชื่อเดียวกับบนเกาะหลีเป๊ะ
นายจารึก ศรีอ่อน รองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการฯ โดยมีนายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และตัวแทนส่วนราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมถึงนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ร่วมชี้แจงที่ห้องประชุม อบต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเร็วๆ นี้
เพื่อติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องเรียนเรื่องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย ตามคำพิพากษาศาลปกครองกับโรงแรมรีสอร์ตในพื้นที่ อ.เขาค้อ และภูทับเบิก ซึ่งกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547
นายประสม ประคุณสุขใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เม้าน์เทนพาร์คอินเตอร์เนชั่นแนล กอล์ฟแอนด์รีสอร์ต จำกัด ในฐานะผู้ร้องเรียนและตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรมรีสอร์ตที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย กล่าวว่า ได้ทำหนังสือร้องเรียนตั้งแต่มีโรงแรมจดทะเบียนถูกต้องเพียง 5 ราย จนบัดนี้มี 62 ราย ส่วนโรงแรมรีสอร์ตที่ผิดกฎหมายเริ่มก่อสร้างและมีการขยายตัวตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาจนปัจจุบันเพิ่มเป็นนับ 1,000 ราย สาเหตุเพราะเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย
นอกจากนี้ ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ยังอ้างถึงอัยการจังหวัดให้ความเห็นถึงคำสั่ง คสช.ที่ 6/62 ให้ความคุ้มครองรีสอร์ตที่อยู่ในเขตป่า และยังให้อะลุ้มอล่วยเพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ 2 ปี ตนไปแจ้งความที่ สภ.เขาค้อ แต่ทราบว่ามีการแทรกแซงให้ชะลอเรื่องทำให้คดีไม่คืบหน้า ปัจจุบันยังมีขบวนการจะทำที่ดินเขาค้อให้ถูกกฎหมายอีก
นายประสมกล่าวอีกว่า ส่วนการสำรวจโครงการจัดการปัญหาที่ดินให้ชุมชน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.)เขาค้อ มีชื่อนายทุน อดีตข้าราชการ และมีนามสกุลใหญ่โตมาขอที่ดิน คทช.เป็นจำนวนมาก นายอำเภอเขาค้อก็ทราบดีว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชามีรีสอร์ตบนเขาค้อเคยถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้วด้วย รวมทั้งคดีเจ้าของรีสอร์ตรายหนึ่งตำรวจส่งเรื่องอัยการบอกว่าไม่พบตัวผู้ต้องหา ทั้งที่มีรูปถ่ายและตัวบุคคลก็เห็นกันอยู่ แต่พอไปถึงอัยการบอกว่าไม่พบผู้ต้องหา ซึ่งในการประชุมครั้งนี้เสียดายที่คนดังกล่าวไม่ได้มา หากมาก็จะชี้ให้จับกุม
"ยังได้ข้อมูลมาชัดเจนมีอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้คนหนึ่งมาซื้อที่ดินและเปิดรีสอร์ตบนเขาค้อ ชื่อเดียวกับรีสอร์ตที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล โดยอดีตรองอธิบดีฯ รายนี้ยังแบ่งขายที่ดิน 5 ไร่ให้นายทุนอีกราย ต่อมาที่ 5 ไร่นี้ถูกดำเนินคดี แต่แปลงอดีตรองอธิบดีฯ ไม่ถูกดำเนินคดี แถมหม้อแปลงไฟฟ้าที่ยื่นขอใช้เป็นชื่อของคนใกล้ชิดอีกด้วย อย่างนี้จะถือว่าป่าไม้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 หรือไม่ และยังยืนยันว่าอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดที่นี่แทบทุกคนมีที่ดินบนเขาค้อ โดยมีการนำมามอบให้และช่วยขายให้ด้วย"
ทั้งนี้ นายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า เขาค้อเริ่มจากทหารขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้และนำไปจัดสรรให้ราษฎรอาสา แต่เมื่อปี 2562 ทางทหารส่งคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้พร้อมปัญหาที่ตามมา กรมป่าไม้กำหนดแผนงานว่าการบุกรุกหลังปี 2557 จะจับดำเนินคดีทุกราย เพราะมีคำสั่ง 64/57 ให้สำรวจราษฎรยากจนเพื่อเข้าสู่กระบวนการ คทช. ในการสำรวจใครอยู่ก่อนหรือหลังปี 2541 จะไปชี้เลยไม่ได้ต้องมีกระบวนการสำรวจตามแผนที่ก่อน
ถามว่าทำไมถึงจับหลังปี 2557 เพราะคำสั่ง คสช.ให้สำรวจว่าคนที่ครอบครองหลังปี 2557 เป็นผู้ยากไร้หรือเปล่า ถ้าครอบครองก่อนปี 2541 ถือว่ามีคุณสมบัติ แต่ถ้าครอบครองระหว่างปี 2541-2557 จะให้เฉพาะผู้ยากไร้ ส่วนนายทุนก็แจ้งได้ตอนนี้กระบวนการจัดที่ดินยังไม่ถึงที่สุด ยังอยู่ในช่วงการสำรวจอยู่
“กรมป่าไม้มีแผนที่ปี 2545 และแผนที่ปี 2557 ในการสำรวจ หากครอบครองปี 2541-2557 เป็นนายทุนก็ไม่จัดที่ดินให้อยู่แล้ว และยังต้องมีกระบวนการผลักดันออกนอกพื้นที่ การสำรวจของทางจังหวัดใช้วิธีประกาศในพื้นที่และผ่านอำเภอผ่านจังหวัดและทางเว็บไซต์สามารถร้องเรียนได้ เพื่อเป็นข้อมูลจะได้ดำเนินการต่อไป โดยคนไหนที่ไม่มีสิทธิก็จะจัดการต่อไป”
รองผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์กล่าวว่า จริงๆ ปัญหาที่ดินเขาค้อไม่ได้มีเฉพาะภาคเอกชนอย่างเดียว ในส่วนราชการเองก็ก่อสร้างและใช้ประโยชน์ก่อนจะมีการขออนุญาต ซึ่งส่วนราชการเพิ่งได้รับการผ่อนผันเมื่อเร็วๆ นี้ ในส่วนภาคเอกชนเสนอปัญหาไปที่ คทช.ส่วนกลางว่า ทางจังหวัดโดยคณะกรรมการมีความเห็นควรจะให้ผู้ประกอบการขออนุญาตตามมาตรา 16 ทางป่าไม้ก็มีกฎหมายอยู่แล้วที่จะให้ทางเอกชนสามารถขออนุญาตได้ แต่ คทช.จะเห็นด้วยหรือไม่ยังไม่มีการพิจารณา ซึ่งหาก คทช.ไม่เห็นชอบตามแนวทางของจังหวัด และให้ดำเนินคดีทุกรายก็เป็นคำตอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนการแก้ไขปัญหาโรงแรมตามคำสั่ง 6/62 ในฐานะจังหวัดและมีอัยการให้คำปรึกษา คิดว่าใช้วิธีสำรวจโรงแรมไม่ถูกกฎหมายมีมากน้อยเพียงไรและให้มาจดทะเบียนถูกต้องเพราะอะไร และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาไป ทางจังหวัดไม่ได้ตัดสินใจเอง แต่ตั้งคณะทำงานทางสถาบันการศึกษา จนมีแนวคิดเสนอว่าควรจะให้โรงแรมเหล่านี้ขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ด้านนายชีวะภาพกล่าวชี้แจงถึงกรณีที่นายประสมพาดพิงถึงอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้มีที่ดินบนเขาค้อว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นอดีตรองอธิบดีกรมไหน ต้องขอตรวจสอบก่อน ซึ่งในการบังคับใช้กฎหมายเมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็จะมอบให้ชุดพยัคฆ์ไพรตรวจสอบไม่ต้องกลัว นอกจากนี้ต้องทำรายงานการสืบสวนสอบสวนก่อน
ขณะที่ นายชิต อินทรนก ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบูรณ์ ไดักล่าวปฏิเสธเช่นเดียวกันว่า ตลอดเวลาที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้และรับผิดชอบในตำแหน่ง ผอ.ศูนย์ป่าไม้และ ผอ.สจป.ที่ 4 พิษณุโลก ก่อนจะมารับตำแหน่ง ผอ.ทสจ.เพชรบูรณ์ ก็ไม่รู้ว่ามีอดีตรองอธิบดีรายนี้มาซื้อที่ดินบนเขาค้อ
อย่างไรก็ตาม นายจารึก ศรีอ่อน รับปากจะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมาธิการชุดใหญ่เพื่อพิจารณา ส่วนกรณีที่ประชาชนทำกินในพื้นที่ป่าไม้หรือป่าอุทยานฯ จะมีคณะทำงานมาพิสูจน์สิทธิ พร้อมระบุว่าเขาค้อมีคดีเยอะแยะมากมายเพราะยังไม่ได้พิสูจน์สิทธิ ขอให้ คทช.ตราเป็นกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน