ฉะเชิงเทรา - ไร้เงานายทหารพระธรรมนูญ! เหตุ ร.อ.(หญิง) คลุ้มคลั่งใช้มีดไล่ฟันเพื่อนบ้านวัยชราเจ็บสาหัส เบื้องต้น ตร.สภ.บางปะกง ต้องสอบสวนฝ่ายเดียวก่อนนำตัวฝากขังศาลทหารปราจีนบุรี ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยอาวุธจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากเหตุการณ์ทหารหญิง ลูกนายพลเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้มีดทำร้ายเพื่อนบ้านซึ่งเป็นปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเจ็บสาหัส เย็บกว่า 60 เข็ม เหตุเกิดในพื้นที่ ม.10 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้เคยแจ้งไปยังญาติของทหารหญิงคนดังกล่าวให้รับทราบถึงพฤติกรรมที่เคยก่อเหตุแบบเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับการแก้ไขกระทั่งเกิดเหตุรุนแรงขึ้น
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง ซึ่งได้รับแจ้งได้เข้าจับกุมตัวทหารหญิง แต่ก็ต้องใช้เวลาพูดคุยอยู่นานจนยินยอมเดินทางไปยังสถานีตำรวจ เพื่อทำสอบปากคำ และรับทราบข้อกล่าวหา แต่สุดท้ายยังไม่ยอมปริปากให้การใดๆ จนต้องมีประสานไปยังนายทหารพระธรรมนูญ เพื่อให้เดินทางรับตัวไปดำเนินตามกระบวนการทางทหารในวันจันทร์นี้นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ส.ค.) พ.ต.ต.สมศักดิ์ ปวงสุข สารวัตรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ สภ.บางปะกง ได้ประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของ ร.อ.(หญิง) พรรษมนตร์ ทรัพย์สุขศานต์ อายุ 44 ปี เพื่อให้ส่งนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเดินทางมาร่วมสอบปากคำแต่อย่างใด
เบื้องต้น จึงทำได้แค่เพียงทำการสอบสวนปากคำไปตามอำนาจหน้าที่เพียงฝ่ายเดียวก่อน จากนั้นจึงจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลทหารใน จ.ปราจีนบุรี โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางมารับตัว พร้อมตั้งข้อกล่าว "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยอาวุธ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส"
ด้าน นายเกรียงไกร สาริกะวณิช อายุ 46 ปี บุตรเขยของ นายสุทิน วุฒิสินธิ์ อายุ 83 ปี ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งถูกทำร้ายที่เดินทางมาสังเกตการณ์อยู่ภายใน สภ.บางปะกง บอกว่า ขณะนี้ทางญาติยังคงหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัวในชั้นศาลทหาร และอาจถูกปล่อยตัวให้ออกมาก่อเหตุซ้ำ หรือทำร้ายผู้คนและเพื่อนบ้านใกล้เคียงอีก จึงยังไม่สบายใจต่อความปลอดภัยในชีวิตและความเป็นอยู่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จนถึงวันนี้ในส่วนของญาติผู้ก่อเหตุก็ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้านค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด
และยังทราบอีกด้วยว่า เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ญาติของผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเป็นการชั่วคราว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกหลักประกันในวงเงินสูงกว่า 8 แสนบาท จึงทำให้หลักทรัพย์ที่ทางญาติเตรียมมามีไม่พอจึงพากันเดินทางกลับไป
ส่วนอาการของ นายสุทิน ยังทรงตัวและอยู่ในความดูแลของแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า กรุงเทพฯ
บุตรเขยปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่าพ่อตามีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้ก่อเหตุมาก่อน และในบางครั้งผู้ก่อเหตุยังเคยมาขอเงิน หรือหยิบยืมเงินจากพ่อตาไปใช้ ซึ่งการลงมือก่อเหตุเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเกิดจากความเครียด
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง ว่า ร.อ.(หญิง) รายดังกล่าวสามารถให้การต่อพนักงานสอบสวนได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป และพูดจารู้เรื่องดีขณะที่ถูกนำตัวมาสอบปากคำครั้งล่าสุด
และยินยอมปริปากว่าสาเหตุเกิดจากความแค้นที่สะสมมานานหลายปี หลังเคยมีเรื่องทะเลาะกับคู่กรณีมาก่อน