สุรินทร์ - ไม่หมดสิ้น! ตำรวจสุรินทร์ขยายผลจับแก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติได้อีก 8 ราย ยึดยานรก 62,000 เม็ด รอง ผบช.ภ.3 แฉลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงจาก สปป.ลาว เข้า อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ และ จ.อำนาจเจริญ ก่อนเข้าพื้นที่ชั้นในอีสานใต้ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) สุรินทร์ พ.ต.อ.สุธีร์ ตรโนภาส ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ชุมพลบุรี ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคดียาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) ได้ผู้ต้องหา 8 ราย และยาบ้า 62,000 เม็ด และของกลางอีกจำนวนมาก
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมเครือข่ายยาบ้าข้ามชาติ ในครั้งนี้เป็นการขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาบ้าจาก สปป.ลาว ซึ่งลักลอบนำยาบ้าข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาในพื้นที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ เข้ามายังพื้นที่ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองบัว สภ.ชุมพลบุรี ร่วมกับชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ สามารถจับกุมได้ผู้ต้องหาค้าและสายส่งยาบ้า 7 เครือข่าย จำนวน 14 คน ยาบ้า 162,000 เม็ด เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา
จากนั้น เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพลบุรี และ ชป.ปส.ภ.จว.สุรินทร์, ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ กก.สส.1 บก.สส.ภ.3, ฝ่ายปกครอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และฝ่ายปกครอง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 62,400 เม็ด บนถนนสายท่าตูม-พุทไธสง ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาขับรถหลบหนีขณะเข้าจับกุมแต่สามารถติดตามไปจับกุมตัวได้ที่ ต.กำแพง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ห่างจากจุดเกิดเหตุ 64 กม.
ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายทศพล หรือ มอสขาว คำนึง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ม.8 บ.หอย ต.โนนคูณ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ, นายเฉลิมพล หรือ มอส แก้วกัลยา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.3 บ.ท่าสมอ ต.ทุ่งศรีเมือง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด, นางสาวชุติกาญจน์ หรือ ปราง เนื้อทอง อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 87/1 ม.2 บ.โนนคูณ ต.โนนคูณ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ และเยาวชนอายุ 16 ปี ชาว ต.โนนคูณ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ อีก 2 คน
พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 62,400 เม็ด, รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีดำ ทะเบียน กง 3216 ศรีสะเกษ จำนวน 1 คัน, รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ CHEVROLET สีดำ ทะเบียน 3 กม 4147 กทม. จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
นอกจากนั้นยังได้ทำการขยายผลการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 3 ราย ประกอบด้วย นางสาวโกมลชนก หรือ อ้อ สีทองดี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/23 ถ.หน้าสถานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์, นายวีรวัฒน์ หรือ มอส ไชยสิทธิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.7 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และ นายทนงศักดิ์ หรือจ็อด แข็งขัน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 ม.2 ต.หลักเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) รายละ 3 มัด รวม 6 มัด จำนวน 12,000 เม็ด ตรวจยึดโทรศัพท์ จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น TTX สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน 1 กด 9117 บุรีรัมย์ จำนวน 1 คัน แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 กล่าวอีกว่า การจับกุมครั้งนี้ต้องขอขอบคุณฝ่ายปกครอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และฝ่ายปกครอง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ที่ได้ร่วมกันบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ไม่ต้องห่วง เราไม่กลัวการข่มขู่ เรากำลังติดตามอยู่ การให้ร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พาดพิงให้ร้ายตำรวจและฝ่ายปกครองไม่เป็นผลดีต่อผู้ต้องหา ตนขอฝากไว้ด้วย แก๊งนี้พัวพันถึงพื้นที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ต้นตออยู่ที่เมือง สปป.ลาว มาจากคนคนเดียวกัน เป็นเครือข่ายโยงใยกัน คนที่ส่งยามา คนที่สั่งยา พอขานี้ถูกจับ ก็มีขาใหม่มา จากการตรวจสอบพบว่าต้นทางมาจาก สปป.ลาว เข้ามาทาง จ.อำนาจเจริญ เข้ามา จ.อุบลฯ จ.ศรีสะเกษ และ จ. สุรินทร์ ซึ่งจะมีการขยายผลติดตามจับต่อไป พร้อมมีมาตรการสกัดกั้นอย่างเข้มข้นที่ชายแดนไทย-ลาว โดยเมื่อสองวันก่อนสามารถจับกุมได้ที่ อ.เขมราฐ ได้ยาบ้า 1 แสน 9 หมื่นเม็ดอีกด้วย