เชียงราย - สาวๆ อดสวยแห่ขึ้นโรงพักร้องทุกข์..คลินิกความงามขายโปรฯ เสริมสวยราคาถูก อ้างโควิดปิดกิจการหนี-เปลี่ยนชื่อเจ้าของใหม่ ไม่รับรู้สัญญาเดิม เสียหายกันหลายร้อยราย
เย็นวันนี้ (5 ก.ค.) หญิงสาวจำนวนมากพากันเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ว่าได้เข้าไปใช้บริการคลินิกเสริมสวยแห่งหนึ่งตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ใกล้กับทางเข้าศูนยการค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขาเชียงราย โดยโอนเงินซื้อโปรโมชันเข้าไปเสริมสวยในรูปแบบต่างๆ เช่น ทรีตเมนต์ ทำผม ฉีดโบท็อกซ์ ฯลฯ รายละตั้งแต่ประมาณ 1,500 บาท สูงสุดกว่า 100,000 บาท
แต่ทางคลินิกกลับไม่ยอมให้บริการตามโปรโมชันที่ขายให้ และล่าสุดยังปิดร้านหนีโดยไม่แจ้ง ลูกค้าผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับทางร้านได้อีก
น.ส.กี้ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังรู้ว่าคลินิกเปิดโปรโมชันเสริมความงามผ่านตัวแทนขายช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จึงซื้อโปรแกรมใช้บริการในราคารวมประมาณ 5,000 บาท แล้วเดินทางไปใช้บริการซึ่งกำหนดเอาไว้ 10 ครั้ง
แต่หลังตนได้ไปเสริมความงามผิวหน้าได้ 3 ครั้ง และครั้งถัดไปต้องฉีดโบท็อกซ์ ทางร้านกลับอ้างวิกฤตไวรัสโควิด-19 แล้วขอเลื่อนนัดหมาย ต่อมาทางราชการได้ประกาศให้เปิดสถานบริการประเภทคลินิกความงามอีกครั้ง พวกตนได้สอบถามไปที่เซลส์ของร้านช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ปรากฏว่าทางเซลส์แจ้งว่าร้านเดิมได้ย้ายออกไปแล้วและมีผู้ประกอบการรายใหม่ที่เปลี่ยนชื่อและบุคลากรภายในหมดแล้ว เมื่อสอบถามร้านใหม่ก็ไม่รับรู้สัญญาใดๆ ที่เจ้าของร้านเดิมเคยทำกับลูกค้าอีกเลย จึงทำให้เดือดร้อนหนัก
“แม้ว่าไม่ได้เป็นเงินมากนักแต่ก็อยากให้เจ้าของร้านรับผิดชอบ และขอเตือนสาวๆ ว่าอย่าได้หลงเชื่อกรณีมีโปรโมชันคลินิกเสริมความงามราคาถูก ขอให้พิจารณาก่อน”
ด้าน น.ส.ไก่ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของคลินิกดังกล่าว บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานกับคลินิกได้ค่าจ้างเดือนละประมาณ 10,000 บาท แต่หลังจากปิดป้องกันโควิด-19 แล้วกลับมาเปิดใหม่ตนก็ติดต่อกับเจ้าของคลินิกไม่ได้อีกเลย และเงินเดือนก็ไม่ได้ด้วย จึงมาร้องทุกข์พร้อมกับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายด้วย
ล่าสุดหญิงสาวที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อโปรโมชันเสริมความงามจากคลินิกดังกล่าวได้รวมกลุ่มเปิดไลน์เพื่อรวบรวมปัญหาต่างๆ พบว่ามีผู้เสียหายเข้าร่วมแล้ว 250 คน โดยแต่ละรายประสบปัญหาเหมือนกันคือไม่สามารถติดต่อ หรือเข้าใช้บริการตามโปรโมชันที่ซื้อไว้ตั้งแต่ต้นปี 2563 ก่อนมีการปิดร้านหนี-เปลี่ยนเจ้าของ
ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร สุขะ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.หญิง ชลธิชา ธานีวรรณ สว.(สอบสวน) สอบปากคำและรวบรวมหลักฐานผู้เสียหายที่เดินทางไปแจ้งความวันแรกประมาณ 20-30 คน ส่วนใหญ่มีหลักฐานใบเสร็จโอนเงินให้ผู้จัดการคลินิกดังกล่าว บางรายโอนผ่านระบบออนไลน์จึงได้ถ่ายสำเนาไปให้เจ้าหน้าที่ ขณะที่ตัวแทนหญิงสาวระบุว่าผู้เสียหายที่กระจัดกระจายกันอยู่จะทยอยมาแจ้งความต่อไป
พ.ต.ท.ภาสกรกล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำและเก็บข้อมูลของแต่ละรายเอาไว้ก่อนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด ล่าสุดทางตำรวจก็ติดต่อไปยังผู้จัดการคลินิกได้แล้วและรับจะมาให้ปากคำว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรและเหตุใดจึงปิดกิจการไป รวมทั้งจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร ส่วนผู้เสียหายพบว่ามีความเสียหายแตกต่างกันไป ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมว่าจะให้เป็นเรื่องเดียวกันได้หรือไม่ต่อไป