สธ.เตือนการ์ดอย่าตก ห่วงป่วยโควิดใหม่อาจเพิ่มเป็น 2-3 หลัก แบบจีน-เกาหลีใต้ หากคุมได้ดีเชื่อ 17 พ.ค.ผ่อนปรนระยะ 2 ได้ ย้ำสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง เชื่อเปิดกิจการทุกอย่างได้ หากทุกคนร่วมมือ ระบุ ฟุตบอลยังเสี่ยงสูง อาจยังไม่ได้ไฟเขียวเปิดในระยะนี้
วันนี้ (12 พ.ค.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เราเห็นตัวอย่างจากจีนและเกาหลีใต้ ที่ขณะนี้มีการป่วยโรคโควิด-19 ขึ้นมาใหม่ ซึ่งประเทศไทยเรามีมาตรการผ่อนปรนกลุ่มสีขาว ตอนนี้เข้าสู่วันที่ 11 แล้ว ย้ำว่า การ์ดต้องไม่ตก มิเช่นนั้น ตัวเลขผู้ป่วยจากที่เราคง 1 หลักมานาน อาจกลายเป็น 2-3 หลัก โดยขอให้สวมหน้ากากอนามัย 100% เมื่อออกนอกเคหสถาน เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ถ้าสถานการณ์ยังดีควบคุมได้ เชื่อว่า วันที่ 17 พ.ค.นี้อาจมีข่าวดี กิจการกลุ่มสีเขียวอาจคลายล็อกอีก เพื่อให้พวกเราสามารถใช้บริการได้ แต่ชีวิตวิถีใหม่
นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า นอกจากต้องปฏิบัติ การ์ดไม่ตก ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างแล้ว เจ้าของกิจการสถานประกอบการก็ต้องพึงระวัง จัดสภาพแวดล้อมสถานที่ให้เอื้อไม่ติดเชื้อง่าย มีมาตรการทำความสะอาด ตามจุดสัมผัสต่างๆ เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่บทบาทโดยตรง แต่อย่าสร้างภาพด้วยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ สิ่งตรงนั้นประโยชน์น้อยมาก การทำความสะอาดแนวราบจะเป็นประโยชน์มากกว่าในการทำลายเชื้อโรค ทั้งนี้ ยังคิดว่าประเทศไทยเรายังสามารถที่จะเดินหน้าต่อไปในการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ได้ และสามารถเปิดกิจการทุกอย่าง ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือ
เมื่อถามถึงการเปิดสนามฟุตบอล นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดไว้ 4 ระยะ 4 กลุ่มกิจการ ทยอยดูทุกสองสัปดาห์ ถ้าสถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่ไม่มีหรืออยู่ในระดับควบคุมได้ ก็มีโอกาสทยอยเปิด อย่างไรก็ตาม วิธีคิดความเสี่ยงของแต่ละกีฬา คือ ดูว่ากีฬานั้นเป็นการเล่นกีฬากลางแจ้งหรือในร่มในอาคาร ซึ่งในกลางแจ้งก็เสี่ยงต่ำ มีการถ่ายเทอากาศดี ในร่มก็อาจคำนึงว่าติดแอร์หรือไม่ การถ่ายเทอากาศเป็นอย่างไร และเป็นกีฬาประเภททีมหรือบุคคล หากเป็นทีมเป็นการละเล่นแบบประชิดตัวหรือใกล้ชิดมากก็เป็นเสี่ยงสูง หากเล่นห่างกัน คนเดียวเล่นได้ คนละฟากก็เล่นได้ ก็เสี่ยงต่ำ ดังนั้น ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล เป็นกีฬาประชิดตัว มีการสัมผัสกันอยู่ จึงยังไม่เปิดระยะเวลาอันใกล้
นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า สำหรับคลินิกเสริมความงามยังห้ามเปิด แต่อาจมีโอกาสเปิดได้ในระยะข้างหน้าหรือถัดไป ถ้าคลินิกเหล่านี้มีแผนกิจการที่ทำอย่างไรดูแลผู้รับบริการให้ปลอดภัย ช่วงนี้ยังเป็นช่วงรับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการ กลุ่มสีเขียวมาเสนอแผนกิจการว่า มีมาตรการความปลอดภัยจัดสิ่งแวดล้อมต่างๆ ให้ประชาชนปลอดภัยอย่างไร เว้นระยะห่างอย่างไร ตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองผู้ป่วยจากผู้ไม่ป่วยอย่างไร จำกัดจำนวนคนมาใช้บริการได้ไหม บันทึกข้อมูลชื่อเบอร์โทร.คนมาใช้บริการ คือ สิ่งที่ธุรกิจสีเขียวเป็นต้นไปจะต้องเสนอเรื่องนี้ให้ ศบค. พิจารณาว่าทำตามมาตรฐานได้หรือไม่ หากเสี่ยงต่ำอยู่ในภาวะจัดการได้ โอกาสได้เปิดก็มี แต่คงตอบไม่ได้ว่าเปิดในระยะ 2 หรือไม่