xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสหัสขันธ์ทำพิธีสืบชะตาปลาเขื่อนลำปาว ปล่อยสัตว์น้ำลงเพิ่มอีก 500,000 ตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - ชาวอำเภอสหัสขันธ์จัดพิธีสืบชะตาปลา ต่ออายุสัตว์น้ำในเขื่อนลำปาว พร้อมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงเขื่อนเพิ่มกว่า 500,000 ตัว พร้อมขึ้นป้ายประกาศห้ามจับปลา 16 มิ.ย. - 15 ก.ย. 63


เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่บริเวณท่าน้ำบ้านนาสีนวล หมู่ที่ 5 ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยนายวีระพงษ์ วังจำนง หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำเขื่อนลำปาว กาฬสินธุ์ นางสาวกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านบ้านนาสีนวลและหมู่บ้านใกล้เคียง ร่วมตักบาตรถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับสรรพสัตว์ในเขื่อนลำปาว ในพิธีสืบชะตาปลาและสัตว์น้ำของคนลุ่มน้ำลำปาวที่ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

โดยพิธีสืบชะตาปลาและสัตว์น้ำของชาวบ้านนาสีนวล ต.สหัสขันธ์ เป็นอีกกิจกรรมที่อาศัยชาวบ้านร่วมขับเคลื่อนเป็นแนวร่วมในการเฝ้าระวังการกระทำผิดตามกฎหมายประมง โดยเฉพาะการกำหนดเขตอนุรักษ์สัตว์น้ำเพื่อเป็นแหล่งอาหารชุมชน ที่มีความมั่นคง ทั้งนี้ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำเขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในเขื่อนลำปาวโดยมีพันธุ์ปลา 300,000 ตัว พันธุ์กุ้งก้ามกราม 200,000 ตัว


น.ส.กฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า เพื่อสร้างจิตสำนึกและกระตุ้นสำนึกรักษ์บ้านเกิด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สนับสนุนให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับริมเขื่อนลำปาว หมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านได้ร่วมกันจัดพิธีสืบชะตาปลาและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงในเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นพิธีที่ชาวบ้านได้ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

โดยทางประมงอำเภอสหัสขันธ์ ได้ร่วมกับชาวบ้านฟื้นพิธีสืบชะตาปลาขึ้นมา โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจัดพิธีสืบชะตาปลาในทุกๆ ปี พร้อมกำหนดใช้เป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ


โดยติดป้ายประกาศห้ามทำการประมงประจำปี 2563 ในฤดูกาลปลาวางไข่ ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. - 15 ก.ย. 2563 ยกเว้นการทำการประมง โดยใช้เบ็ดทุกชนิด ตะแกรง สวิง ช้อน ยอน หรือชนาง ขนาดกว้างไม่เกิน 2 เมตร การทำประมงโดยใช้ฉมวก และส้อม ไซตุ้ม อีจู้ ลัน และแหที่ลึกไม่เกิน 6 ศอก (3 เมตร) หากมีการฝ่าฝืนมีโทษตามทางกฎหมายปรับ 5,000-50,000 บาท หรือ 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง ทั้งนี้เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติตามระบบนิเวศไว้อย่างยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น