ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจเผยผู้ต้องหายักยอกเงินหลวง 33.9 ล้านบาท โอนผ่านอีแบงก์ให้เว็บพนันออนไลน์ 26 ล้านบาท เหลือเงินในบัญชีให้ตำรวจอายัดเพียง 3 แสน ขณะที่ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยวันนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการตรวจสอบ
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิธิวัตน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.เจริญ ชนสวัสดิ์ พ.ต.อ.ธฤต เรืองเดชา ผู้กำกับสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ธนาการ วงศ์สิริรักษ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมประชุมสรุปความคืบหน้าการสืบสวน
ภายหลังที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ตรวจยึดหลักฐานสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม เอกสารการเงินจำนวนมาก รวมทั้งสมุดเช็คงบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ฉบับ ภายในปรากฏว่ามีการลงลายมือของผู้มีอำนาจสั่งจ่าย โดยไม่กรอกตัวเลขจำนวนเงินและชื่อบุคคลที่สั่งจ่าย ที่บ้านพักของ น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี ลูกจ้างชั่วคราว สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาในคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม หลังพบว่ามีการยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการรวม 33.9 ล้านบาท
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า พบเช็คสั่งจ่ายนางประชิต วงษ์ประภารัตน์ หัวหน้างานการเงิน จำนวนเงิน 3 แสนบาท จากเช็คงบประมาณจังหวัด ธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ อีก 1 ใบ มีลายเซ็นผู้มีอำนาจสั่งจ่าย 2 ราย เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2563 นอกจากนั้น พบการโอนเงินเข้าออกสมุดบัญชีธนาคารสูงสุด 20 ครั้งต่อวัน มียอดเงินฝากเข้าถอนออกในวันเดียวกัน เพื่อโอนผ่านระบบอีแบงก์ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้เกี่ยวข้องรายอื่น และยังไม่ออกหมายจับผู้ใดเพิ่มเติม สำหรับการสอบปากคำนายธัญเทพ กิตติธากรณ์ สามี อายุ 28 ปี และนางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี มารดา อ้างว่าไม่ทราบเรื่องการทุจริต และการเล่นพนันออนไลน์ แต่ในทางลับเจ้าหน้าที่พบเบาะแสที่น่าสนใจแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินผ่านการโอนในระบบอีแบงก์ ของผู้ต้องหา ล่าสุดได้อายัดเงิน จำนวน 3 แสนบาท ที่นำไปจ่ายค่าซื้อบ้านโดยโอนให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขาประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นพบว่าผู้ต้องหามีการโอนเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ 2 เว็บไซต์ มีการโอนสูงสุดครั้งเดียว 26 ล้านบาท และมีการโอนผ่านอีแบงก์มากกว่า 50 ครั้ง ขณะที่ชุดสืบสวนได้เข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาในเรือนจำประจวบคีรีขันธ์เพิ่มเติม เพื่อสอบเส้นทางการโอนเงินทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ทราบชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกรณีการเซ็นชื่อในสุมดเช็ค งบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 รายชื่อ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่าย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากการตรวจสอบพบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้แจ้งความคดีเช็คหาย หลังพบสมุดเช็คที่บ้านพักของผู้ต้องหา ซึ่งปกติเช็คดังกล่าวต้องเก็บไว้ในตู้นิรภัยและมีสมุดลงรายการควบคุมการเบิกจ่ายจากเช็คตามลำดับหมายเลข
สำหรับความเสียหายจากการยักยอกงบประมาณแผ่นดิน มีการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS ประกอบด้วยบัญชีภัยแล้ง 23.2 ล้านบาท บัญชีงบแผนพัฒนาจังหวัดปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านบาท บัญชีเงินฝากคลัง 7.3 ล้านบาท รวม 33.9 ล้านบาท พบการกระทำความผิดสร้างข้อมูลหลักฐานเท็จตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ต่อเนื่องนาน 1 ปี มีการกระทำความผิด 53 ครั้ง
ต่อมา ในช่วงบ่าย พ.ต.อ.วิธิวัตน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปพบนางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่โต๊ะทำงานของผู้ต้องหาที่อาจหลงเหลือเชื่อมโยงเบาะแสการทุจริต โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ล็อกประตูกระจกทางเข้าสำนักงาน เพื่อไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ จากนั้น พ.ต.อ.วิธิวัตน์ นางกัลยารัตน์ และนางประชิต เข้าพบนายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องทำงานชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยทั้งหมดปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ล่าสุด มีรายงานว่า วันนี้ นายกิตติพงษ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับหนังสือแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การยักยอกเงินจำนวน 33.9 ล้านบาท เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ความบกพร่องทางวินัย โดยมีคณะกรรมการอีกหลายท่านร่วมด้วย