ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจประจวบฯ ค้นบ้านลูกจ้างสำนักงานจังหวัดโกงเงิน 33.9 ล้านบาท พบหลักฐานเด็ด ผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเซ็นเช็คเปล่า พบวันเดียวมีเงินโอนเข้าบัญชีส่วนตัว 5.9 ล้านบาท
เวลา 16.00 น.วันนี้ (23 มิ.ย.) พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำหมายค้นศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ ค.86/263 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เข้าค้นบ้านเลขที่ 82/21 ถนนเพชรเกษม หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมือง ซึ่งเป็นบ้านพักของ น.สขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี นักวิชาการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาคดียักยอกเงินงบประมาณ 33.9 ล้านบาท ตามหมายจับที่ จ.43/2563 ข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม ขณะตรวจค้นมีนายธัญเทพ กิตติธากรณ์ อายุ 28 ปี สามี เป็นลูกจ้าง ตำแหน่งช่างไฟฟ้า สำนักงานจังหวัด นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี มารดาเป็นผู้นำตรวจค้นภายในห้องนอนของผู้ต้องหา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเอกสารการเงินส่วนตัว และเอกสารของทางราชการจำนวนมาก ประกอบด้วย สมุดเช็คงบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ฉบับ ภายในมีการลงลายมือของผู้มีอำนาจสั่งจ่าย โดยไม่กรอกจำนวนเงิน และชื่อบุคคลที่สั่งจ่าย สมุดบัญชีหลายธนาคาร จำนวน 18 เล่ม บัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม 22 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซีพียู พร้อมจอคอมพิวเตอร์ 1 ชุด สมุดทะเบียนคู่มือรถจักรยานยนต์ 1 เล่ม จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า สมุดบัญชีบางเล่มการบันทึกรายการเบิกจ่ายผ่านระบบในวันที่ 30 เมษายน 2563 มีเงินเข้าบัญชี 20 รายการ วงเงิน 5.9 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาใช้บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพในการโอนเงินเข้าและถอนไปบัญชีอื่นโดยใช้ระบบอีแบงก์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายธัญเทพ กิตติธากรณ์ และนางสายพิณ ดิบดีคุ้ม ไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองฯ อย่างเคร่งเครียด เนื่องจากไม่ปักใจเชื่อตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหาว่าลงมือกระทำความผิดเพียงรายเดียว และใช้บัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.ของมารดาเพียงบัญชีเดียว เนื่องจากตรวจพบการโอนผ่านระบบอีแบงก์ กระจายเงินไปมากกว่า 100 บัญชี มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมเป็นคณะงานในการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด สำหรับข้ออ้างว่ามีการนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมดถือว่ามีพิรุธ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามตรวจสอบในการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่น
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากคณะทำงานด้านการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ปัญหาที่ทำให้ตรวจสอบพบการทุจริตมาจากการจ่ายเช็คของสำนักงานจังหวัดเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายกว่า 1.2 แสนบาท ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปรักษาความปลอดภัยในงานกาชาดปี 2563 มีปัญหาเช็คของธนาคารกรุงไทยไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี เจ้าหน้าที่จึงสอบถามไปที่สำนักงานจังหวัด ทั้งที่เงินค่าเบี้ยเลี้ยงดังกล่าวผู้บริหารระดับจังหวัดได้สั่งจ่ายเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีการตรวจสอบย้อนหลังถึงเดือนมิถุนายน 2562 กระทั่งมีการออกหมายจับในดีดังกล่าว