ประจวบคีรีขันธ์ - เปิดเส้นทางยักยอกเงินหลวง 33.9 ล้านบาท ของพนักงานบัญชีสาว สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS นำไปสร้างข้อมูลหลักฐานเท็จ เพื่อความสะดวกในการเบิกจ่ายเงินเข้าบัญชี
จากกรณีนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงนามมอบอำนาจพร้อมสั่งการให้ นางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัด ข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม หลังมีการตรวจสอบพบการยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการรวม 33.9 ล้านบาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีญาติใกล้ชิด และอ้างนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ จนในที่สุดนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี
วันนี้ (22 มิ.ย.) ร.ต.อ.หญิง สุภาภรณ์ ดวงกันยา พนักงานสอบสวน สภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำตัวไปฝากผลัดแรก โดยศาลไม่ให้ประกันตัวเพราะวงเงินการทุจริตสูง พร้อมทั้งได้ร่วมกับทนายความอาสาสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำการทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณของทางราชการเพียงคนเดียว
ทำการเบิกจ่ายจากระบบคอมพิวเตอร์ภายในหน่วยงาน ที่มีการใช้รหัสผ่านจากบัตรสมาร์ทการ์ดของหัวหน้าหน่วยงานรายหนึ่งที่มีอำนาจสั่งจ่าย แต่เสียบบัตรประจำตำแหน่งคาเครื่องไว้ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังพบว่ามีการลงลายมือชื่อจากผู้มีอำนาจในบัญชีเช็คสั่งจ่ายไว้ล่วงหน้าโดยไม่กรอกตัวเลขจำนวนเงิน จากนั้นทิ้งเล่มเช็คไว้ภายในหน่วยงาน
โดยผู้ต้องหาสาวได้ทำการโอนเงิน จำนวน 33.9 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายจากบัญชีภัยแล้ง 23.2 ล้านบาท บัญชีงบแผนพัฒนาจังหวัดปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านบาท บัญชีเงินฝากคลัง 7.3 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. สาขาประจวบคีรีขันธ์ ชื่อบัญชี นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม ซึ่งเป็นมารดา ผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐ แบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS ให้นำไปสร้างข้อมูลหลักฐานเท็จ เพื่อความสะดวกในการเบิกจ่ายเงินเข้าบัญชี ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าใช้วิธีการปลอมลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่าย ตั้งแต่เดือน มิ.ย.62
ขณะที่ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัด ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้หัวหน้าหน่วยงานดังกล่าวชี้แจง หลังจากพบว่า น.ส.ขนิษฐา ยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการตั้งแต่เดือน มิ.ย.2562 กระทั่งตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้ง เงินที่ตกค้างในบัญชีที่ใช้ทำสัญญาประกันงานกับผู้รับเหมาในหน่วยงานต่างๆ เข้าบัญชีชื่อญาติ
หลังจากนั้น จะนำเงินที่ได้ไปเล่นการพนันออนไลน์ หากเล่นได้จะนำเงินหมุนเวียนกลับมาคืนในระบบ ซึ่งส่วนตัวยังข้องใจว่าเจ้าหน้าที่ดังกล่าวในสถานะเป็นพนักงานจ้างต่อสัญญาการทำงานครั้งละ 2 ปี แต่ สามารถเข้าถึงระบบบัญชีการเงินของหน่วยงาน และมีการโอนเงินเข้าบัญชีญาติสนิทอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
เนื่องจากขั้นตอนการทำงานจะต้องมีการใช้รหัสผ่านในระบบสารสนเทศเพื่อความปลอดภัย ซึ่งหลังจากนี้ได้กำชับให้หัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบอย่างเข้มงวด และหากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีข้าราชการและลูกจ้างรายใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดต่อไป
สำหรับผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นบุตรสาวของอดีตกำนัน ต.คลองวาฬ ที่สนิมสนมกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่ง ที่ร่วมกันทำธุรกิจที่ชายแดนไทย-พม่า เมื่อหลายปีก่อน โดยก่อนหน้านี้เป็นลูกจ้างชั่วคราวของสำนักงานจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน หลังจากนั้นสอบเข้าเป็นพนักงานราชการเป็นเวลา 2 ปี ในตำแหน่งพนักงานวิชาการการเงินและบัญชี โดยมีบุคลิกเป็นคนเงียบและมีวิถีชีวิตปกติ ทำให้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตจากเพื่อนร่วมงาน
