จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ “Natthawut Senamontree” ได้โพสต์ภาพกระท่อมกลางทุ่งนาพร้อมกับภาพของเด็กชายคนหนึ่ง และเขียนข้อความว่า “ด้วยความไร้เดียงสา กำไร 5-10 บาทก็ดีใจ บางครั้งได้แต่ทุน ปั่นจักรยานออกหาขายขนมไปทั่ว หนังสือก็อยากเรียน อาศัยชายคาเพื่อพักอาศัย ฝนตกแดดออกก็อยู่ตามสภาพ 2 ตาหลาน (สู้ๆ เด็กน้อย)..น้องพักอาศัยอยู่หลัง ม.อีสาน (สระแดง) ต.บ้านทุ่ม ขาดแสงสว่างในยามค่ำคืน”
หลังจากโพสต์ได้ไม่นานมีผู้แชร์ออกไปจำนวนมาก ชาวโซเชียลมีเดียต่างแสดงความเห็นในทำนองเห็นใจ สงสารและมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องการช่วยเหลือสองตาหลาน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับสองตาหลานคู่นี้ที่กระท่อมกลางทุ่งนา ด้านหลังวิทยาลัยเทคโนโลยีนครขอนแก่น ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น ทราบว่าผู้เป็นตาชื่อนายบุรุษ โพธิ์ปัสสา อายุ 58 ปี ส่วนหลานชายคือ ด.ช. วิศรุต ผาสุดใจ หรือ “น้องออนไลน์” อายุ 11 ปี
นายบุรุษเล่าถึงสาเหตุที่ต้องพาหลานมาพักอาศัยในกระท่อมนาแห่งนี้ เพราะพ่อแม่ของน้องออนไลน์แยกทางกัน ส่วนญาติพี่น้องก็ยากจนจึงมาขออาศัยอยู่กับน้องสาวที่มารับจ้างทำนาให้กับเจ้าของที่นาเมื่อต้นปี พ.ศ. 2563 ยอมรับว่าการพักอาศัยอยู่ในกระท่อมนามีความยากลำบากมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตก พายุพัด ตนและหลานชายต้องสวมเสื้อกันฝนนอนเพราะฝนรั่วจากหลังคาสังกะสีที่ผุพัง
“สิ่งที่ลุงห่วงมากในตอนนี้คือ อนาคตของหลานชาย อยากให้หลานได้เรียนหนังสือ และมีอาชีพที่เลี้ยงดูตนเองได้ เพราะลุงไม่รู้จะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน” นายบุรุษบอกด้วยสีหน้ากังวล
ขณะที่ ด.ช. วิศรุต ผาสุดใจ หรือน้องออนไลน์ บอกว่า ตนเองเพิ่งย้ายมาอยู่กับตาได้ไม่ถึงปี โดยตลอดระยะเวลาที่อยู่มาอยู่ที่นี่แม้จะลำบากบ้าง เช่น ไม่มีฟ้าส่องสว่าง ไม่มีโทรทัศน์ และสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ก็มีความสุข แม้บางวันจะต้องย้ายที่นอนและใส่เสื้อกันฝนนอน ตนเองก็พยายามช่วยเหลือตาด้วยการขี่จักรยานไปขายขนมตั้งแต่เช้าจนค่ำ โดยเงินที่นำมาซื้อขนมก็เป็นเงินที่ได้มาจากการขายขนมวันต่อวัน และแม้จะได้กำไรไม่กี่บาทแต่ก็ทำทุกวัน เพราะต้องการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระตา แต่สิ่งที่กังวลคือเรื่องของการเรียน คือ ตนเองอยากเรียนหนังสือเพื่อจะมีความความรู้ความสามารถในการดูแลตาและญาติพี่น้อง