กาฬสินธุ์ - แม่น้องนุ่มนิ่มเมียรองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลางยังไม่เชื่อปืนลั่นใส่ลูกสาวดับ หลังเจ้าตัวสารภาพมีปากเสียงกันก่อนยื้อแย่งแล้วทำปืนลั่น เชื่อวิญญาณลูกสาวช่วยให้รับสารภาพ ย้ำขอให้พูดความจริงทั้งหมด แต่ไม่ให้อภัย
จากกรณีนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือนุ่มนิ่ม อายุ 29 ปี เสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ ซึ่งแพทย์นิติเวชระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง ซึ่งเป็นปืนขนาด .45 ยิงเข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 นัด ซึ่ง ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รอง สว.(สืบสวน) สน.วังทองหลาง สามีผู้เสียชีวิต ให้การในเบื้องต้นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ทางญาติๆ ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และต่อมา ร.ต.อ.ทรงกลดยอมรับสารภาพว่าทะเลาะกับภรรยา จึงได้ชักปืนขู่จนมีการยื้อแย่งและปืนลั่นใส่ศีรษะนางสาวพิมชฎาพรเสียชีวิต
ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของนางทองใส ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี แม่ของนางสาวพิมชฎาพร ญาติได้นำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนางทองใส ซึ่งยังทำใจไม่ได้เนื่องจากต้องเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับอย่างกะทันหัน
ทันทีที่นางทองใสและญาติๆ ทราบข่าวว่า ร.ต.อ.ทรงกลดรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกันกับลูกสาวจึงใช้ปืนขู่ และมีการยื้อแย่งกันจนเป็นเหตุให้ปืนลั่นใส่ลูกสาวเสียชีวิต ทำให้ญาติรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง เพราะผู้ก่อเหตุยอมรับสิ่งที่กระทำแล้ว แต่ยังคงไม่เชื่อคำสารภาพ ร.ต.อ.ทรงกลดทั้งหมด เพราะเชื่อว่าน่าจะไม่ใช่การยื้อแย่งกันจนปืนลั่น
นางทองใสกล่าวว่า ตนและครอบครัวไม่เชื่อตั้งแต่แรกแล้วว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีสาเหตุ ไม่มีอาการซึมเศร้า และไม่มีแรงจูงใจอะไรที่จะคิดสั้นแบบนี้ อีกทั้งลูกสาวยังมีลูกที่ยังเล็กและต้องเลี้ยงดูอยู่ ประกอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีพิรุธหลายอย่าง และก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกับสามีบ่อยครั้งจึงทำให้เชื่อว่าไม่ได้ฆ่าตัวตาย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนและญาติยังกลัวว่าสักวันหนึ่งอาจจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แล้วก็เกิดขึ้นจริงๆ
นางทองใสกล่าวอีกว่า การที่ ร.ต.อ.ทรงกลดรับสารภาพว่าเอาปืนมาขู่แล้วเกิดยื้อแย่งจนปืนลั่นนั้น เชื่อว่าวิญญาณลูกสาวช่วยให้สามีสารภาพในสิ่งที่ตนเองทำขึ้นตามที่แม่เคยบอกไว้เมื่อครั้งไปรับศพออกมาจากโรงพยาบาล แต่ตนและครอบครัวยังคงไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวกับสามีเคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นลงมือและเอาปืนจ่อหัว
รวมทั้งขู่ทำร้ายลูกสาวมาแล้วเมื่อครั้งที่ลูกสาวทะเลาะแล้วพาลูกมาอยู่ที่บ้าน จึงอยากให้ ร.ต.อ.ทรงกลดพูดความจริงออกมาให้หมด เพราะการเป็นลูกผู้ชายและยังเป็นตำรวจนั้นกล้าทำแล้วต้องกล้ารับ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีต่อไปนี้ก็คงต้องว่ากันไปตามกฎหมาย รับโทษสูงสุด ใครทำกรรมอะไรไว้ก็ได้รับผลกรรม ส่วนตนและครอบครัวไม่ขออโหสิกรรมให้ และไม่อยากยุ่งเกี่ยวกันอีก และหากเป็นไปได้จะเอาหลานสาววัย 2 ขวบมาเลี้ยงเอง ส่วนพิธีบำเพ็ญกุศลศพลูกสาวนั้นจะสวด 3 คืน และคาดว่าจะทำการฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายนนี้
ด้านนายสมัย ภูคงน้ำ ปลัด อบต.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ น้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันที่ตนทราบข่าวหลานสาวเสียชีวิตตกใจและช็อกอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะเสียชีวิตอย่างกะทันหันเช่นนี้ ซึ่งครอบครัวนั้นไม่เชื่อตั้งแต่แรกแล้วว่าหลานสาวจะตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง เพราะเป็นคนร่าเริง ไม่ได้ซึมเศร้า แต่ทราบว่าทะเลาะกับสามีบ่อยครั้ง อีกทั้งเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะหลานสาวถนัดมือขวา แต่สภาพศพและรอยบาดแผลพบที่ขมับข้างซ้าย
นอกจากนี้หลานสาวยังไม่เคยจับหรือใช้ปืน เป็นไปได้ยากมากที่จะใช้มือข้างซ้ายถือปืนและลั่นไกยิง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติ ประกอบกับสามีของหลานสาวให้การว่าเป็นผู้คลุมผ้าให้ศพ รวมทั้งเรียกพนักงานสอบสวนมาตรวจศพ โดยไม่มีกู้ชีพกู้ภัยร่วมนั้น ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งล่าสุดทราบว่าสามีนั้นสารภาพแล้วก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสมัยกล่าวอีกว่า ตนไม่ปักใจเชื่อว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากเหตุปืนลั่น เพราะตามที่ทราบสามีและน้องนุ่มนิ่มทะเลาะกันบ่อย อาจจะมีสาเหตุใดก็ตามแต่ และสามีน้องนุ่มนิ่มชอบเอาปืนมาขู่ อย่างไรก็ตามคนที่ใช้ปืนนั้นต้องมีความชำนาญในการใช้ปืน และตนก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดจากปืนลั่นขณะแย่งปืนกัน
จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาขั้นสูงสุดตามกฎหมาย ส่วนการฟ้องคดีทางแพ่งก็จะทำเดินหน้าต่อไปหลังจากประกอบพิธีฌาปนกิจหลานสาวเรียบร้อยแล้ว