นครพนม - ป.ป.ส.นำปิดล้อมค้นบ้านนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดทรัพย์เกือบ 40 ล้าน เร่งขยายผลเครือข่ายตามแนวชายแดน ตัดวงจรการค้า ล่าสุดจับผู้ต้องหาอีก 5 ราย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ แต่ตำรวจยันติดตามพฤติกรรมค้ายานรกมานาน
วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่อำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด พ.อ.ชัยยันต์ สิรสุนทร หน.ตอนปฏิบัติการและตรวจสอบ ศูนย์ข่าวยาเสพติดปฏิบัติการข่าว กองทัพบก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง แถลงผลงานปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้าข้ามขาติ ตามแผนสยบไพรี 66/11 ฟ้าสางที่ฝั่งโขง ล่านักลำเลียง
โดยได้ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่หน้า สภ.ศรีสงคราม แบ่งเป็น 7 ชุด พื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอศรีสงคราม และอำเภอบ้านแพง เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายพร้อมกัน ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาบ้ารายสำคัญ เชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เป้าหมายหลักภายในบ้านเลขที่ 127 หมู่ 12 บ้านดงน้อย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ทราบชื่อเจ้าของคือ นางสาวมณีรัตน์ ภาโสม อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ กรณีมีการขยายผล จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่เมื่อปี 2562 ตรวจยึดยาบ้ากว่า 6 แสนเม็ดที่ลักลอบนำส่งไปขายพื้นที่ภาคใต้ ก่อนมีการขยายผล รวบรวมหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับเครือข่ายในพื้นที่ จ.นครพนม และเข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกุม
นอกจากนี้ยังได้ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายอีก 4 ราย มี นายสุขี ภาโสม อายุ 59 ปี บิดาของ นางสาวมณีรัตน์ รวมถึงภรรยา คือ นางบุญจันทร์ ภาโสม อายุ 58 ปี นอกจากนี้ยังตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เป็นเครือข่ายอีก 2 ราย คือ นางสาวพนสิริ เทพสิงห์ อายุ 40 ปี และ นายทรงศักดิ์ คำผาเยือน อายุ 50 ปี
โดยได้มีการตรวจค้น ยึดทรัพย์สิน ประกอบด้วย บ้านพัก 5 หลัง ที่ดิน 77 ไร่ รถยนต์อีก 5 คัน เงินสดอีก 3 ล้านบาท ทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 38 ล้านบาท เพื่ออายัดตรวจสอบ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
สำหรับบ้านเป้าหมายสำคัญที่เข้าตรวจค้นเป็นบ้านของนายสุขี ภาโสม อายุ 59 ปี นางบุญจันทร์ ภาโสม อายุ 58 ปี นางสาวมณีรัตน์ภาโสม อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นบ้านพัก บ้านเลขที่ 127 หมู่ 12 บ้านดงน้อย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม กำลังมีการก่อสร้างโรงน้ำดื่มขนาดใหญ่
และยังตรวจสอบพบทรัพย์สินเงินสดกว่า 3 ล้านบาท เชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด โดยผู้ต้องหาได้ปฏิเสธ แต่ทางตำรวจยืนยันมีการสอบสวนขยายผลติดตามพฤติกรรมมานาน
พร้อมยืนยันมีหลักฐานชัดเจนในการเชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยจะได้เร่งสอบสวนขยายผล พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มตามแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดทุกราย ทั้งรายใหญ่ รายย่อย และสร้างความร่วมมือภาคประชาชนในการแจ้งเบาะแส
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการปราบปรามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดจะเร่งขยายผลเข้าปราบปรามจับกุมทุกราย
