MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส.ประชุม คกก.ตรวจสอบทรัพย์สิน มติยึดอายัด 642 ล้านบาท ศาลมีคำสั่งริบเข้ากองทุน ป.ป.ส.235 ล้านบาท แบ่งเบางบฯ แผ่นดินด้านป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
วันนี้ (28 พ.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน กล่าวว่า ตามที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) ได้มีข้อสั่งการให้ ป.ป.ส.ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินประจำทุกสัปดาห์ เพื่อเร่งรัดพิจารณาวินิจฉัยคดี โดยเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 63 ได้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ครั้งที่ 11/2563 โดยมีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน และมีกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมที่ดิน กรมบังคับคดี กรมศุลกากร กรมสรรพากร และธนาคารแห่งประเทศไทย
นายนิยมกล่าวอีกว่า ในการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน 80 ราย รวมมูลค่า 19,476,000 บาท นอกจากนี้ ช่วงเดือน พ.ค. 63 คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินได้มีการประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง ยึดอายัดทรัพย์สิน 233 ราย รวมมูลค่า 60,056,000 บาท โดยคดีที่คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินทั้งหมด จะได้มีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน และจัดส่งสำนวนการตรวจสอบทรัพย์สินให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณาเพื่อให้ริบทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (กองทุน ป.ป.ส.) ต่อไป
นายนิยมกล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานด้านการตรวจสอบ ยึดและอายัดทรัพย์สินในคดียาเสพติด ตั้งแต่เดือน ต.ค. 62 - พ.ค. 63 ได้มีคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สินในคดียาเสพติดรวม 973 ราย ยึดอายัดทรัพย์สินชั่วคราวมูลค่า 452,130,000 บาท มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินรวม 11 ครั้ง พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน 1,257 ราย รวมมูลค่า 642,802,000 บาท ศาลได้พิจารณาคำร้องและมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินตกเป็นของกองทุน ป.ป.ส.รวม 1,163 ราย มูลค่า 235 ล้านบาท และคณะอนุกรรมการกองทุน ป.ป.ส.พิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรวม 446 ล้านบาท แยกเป็นด้านการป้องกัน 293 ล้านบาท ด้านการปราบปราม 44.6 ล้านบาท ด้านการบำบัดฟื้นฟู 9.6 ล้านบาท และด้านบริหารจัดการ 97.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระงบประมาณของแผ่นดินได้ระดับหนึ่ง
นายนิยมกล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายและเน้นย้ำให้หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้มีการบูรณาการปฏิบัติร่วมกันอย่างเหนียวแน่นเพื่อทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดลงให้ได้ ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินทุกวิถีทางที่จะให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว โดยการกำกับติดตามและมีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติและวิเคราะห์สภาพปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้การดำเนินการต่อทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในปัจจุบัน และเพื่อให้สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด
“ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการขยายผลยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อตัดวงจรการเงิน ทำลายท่อน้ำเลี้ยงของนักค้ายาเสพติด โดยหากประชาชนพบเห็นเบาะแสยาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชม. เพื่อเป็นเบาะแสให้แก่เจ้าหน้าที่ในการดำเนินการสืบสวนขยายผลจนสามารถนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติดได้ในที่สุด” เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวทิ้งท้าย