กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ ลงพื้นที่สำรวจที่ดินเสี่ยใหญ่ กรรมการบริษัทห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ขณะที่เจ้าตัวยัน ส.ค.1 ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ลุ้นอีกรอบ ผิดไม่ผิด อยู่ที่ภาพถ่ายทางอากาศ
วันนี้ (20 พ.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ เด็ดขาดต่อนายทุนผู้บุกรุกป่า
ต่อมา วันที่ 5 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้ร่วมกันตรวจสอบแปลงที่ดินที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ท้องที่ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวน 25 ไร่ โดยมี นายวราชัย ส่งวัฒนา กรรมการบริษัทห้างสรรพสินค้า Outlet เป็นผู้ครอบครอง
เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวนำเอกสารการครอบครองมาแสดง เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในการสำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนในเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ พ.ศ.2562 ซึ่งการสำรวจการครอบครองที่ดินของประชาชนในเขตอนุรักษ์จะต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ก.ค.2563 หากผู้ครอบครองไม่นำเอกสารมาแสดงตามเวลาที่กำหนด จะต้องถูกแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ เปิดเผยต่อว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.63 นายวราชัย ได้ส่งเอกสารใบ ส.ค.1 เลขที่ 27 ลงวันที่ 19 พ.ค.2498 เนื้อที่ 22 ไร่เศษ มาให้แก่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสำรวจ รวมทั้งใช้เป็นหลักฐานยืนยันสิทธิการครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งผู้ครอบครองมีเอกสารการชี้แจงมาด้วย
ซึ่งเอกสารการชี้แจงระบุว่า ที่ดินด้านทิศตะวันออก ติดกับแม่น้ำแควใหญ่ ส่วนที่ดินด้านทิศเหนือ ติดถนนหลวง หมายเลข 3457 ซึ่งแต่เดิมแนวเขตติดกับภูเขามาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ.2498 แต่ต่อมาทางราชการได้ตัดถนนหลวงหมายเลข 3457 ระหว่างแปลงที่ดินกับภูเขา ส่วนทางทิศใต้ ติดที่ดินของผู้อื่น ที่มีชื่อตามที่ระบุในเอกสาร ส.ค.1 ในปี พ.ศ.2498 แต่เวลาผ่านไปเกือบ 50 ปี ซึ่งในขณะนั้น ที่ดินแปลงที่จดทางทิศใต้ มีการเปลี่ยนผู้ครอบครองมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลากว่า 70 ปี ที่ดินจึงเปลี่ยนเป็นผู้ครอบครองรายอื่นไปแล้ว จึงไม่ใช่ชื่อของผู้ครอบครองเดิม คือนายยื่น หลักศิลา
ส่วนที่ดินทางทิศตะวันตก แต่เดิมจดลำห้วย แต่ผู้ขายแจ้งว่าก่อนหน้านี้มีผู้เข้ามาครอบครองที่ดินพื้นที่บริเวณก่อนติดห้วยไปแล้วบางส่วน ดังนั้น ผู้ขายจึงล้อมรั้วเอาไว้เฉพาะพื้นที่ในส่วนที่ นายวราชัย ครอบครองเพื่อทำประโยชน์ จึงทำให้เอกสารด้านทิศตะวันตก ไม่ติดกับลำห้วย แต่ไปติดกับที่ดินของบุคคลอื่น
นอกจากนี้ ผู้ครอบครองที่ดินยังส่งหลักฐานใบมอบอำนาจขายที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 27 และสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ฉบับที่ ลงวันที่ 4 พ.ศ.2546 ระหว่าง นางบุญยืน ปทุมทอง (ผู้ขาย) และ น.ส.สุภาพร มังกะโรทัย (ผู้ขาย) กับนายวราชัย ส่งวัฒนา (ผู้ซื้อ) รวมทั้งพยานเอกสารอื่นๆ และพยานบุคคลจำนวน 4 คน มายืนยันการได้สิทธิครอบครองในที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ด้วย
วันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาพยานเอกสาร และพยานบุคคล และเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง ตลอดจนเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่จริง โดยมี น.ส.อรุณรัตน์ งามจิรภากย์ เลขานายวราชัย เป็นผู้นำพาตรวจสอบแปลงที่ดินทุกด้านทุกทิศ โดยเฉพาะด้านทิศตะวันตก ที่เอกสารระบุว่า ติดกับลำห้วย ปัจจุบันถูก นายทวี หลงสกุล เจ้าของแคมป์ช้างทวีชัย แบ่งการครอบครองไป จำนวน 2 ไร่ 76 ตารางวา ทำให้ด้านทิศตะวันตกไม่จดกับลำห้วย แต่จดกับที่ดินของ นายทวี หลงสกุล แทน ถัดจากที่ดินของนายทวี หลงสกุล มาประมาณ 44 เมตร ถึงจะจดลำห้วย พยานหลักฐานเบื้องต้นจึงมีเหตุผลรับฟังได้
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า แต่เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ในการตรวจสอบเอกสาร ส.ค.1 ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จะเสนอขอบเขต และพิกัดแปลงที่ดินแปลงของนายวราชัย ไปให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อ่าน เพื่อแปล ตีความ และวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง ว่าในปี พ.ศ.2498 มีการครอบครองและร่องรอยการทำประโยชน์ ก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับก่อนวันที่ 1 ธ.ค.2497 หรือไม่
หากผลการอ่าน แปลตีความ และวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ ออกมาว่ามีการครอบครอง ร่องรอยการทำประโยชน์จริง ก็จะแนะนำให้นายวราชัย นำไปออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดว่า เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ อยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ ตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2551 เพราะในเขตอุทยานแห่งชาติ สามารถออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ ถ้า ส.ค.1 ได้มาถูกต้องโดยชอบด้วยกฎหมาย
แต่ถ้าหากผลการอ่าน แปลตีความ และวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศออกมาแล้วปรากฏว่า ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ ก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ ก็จะอาศัยอำนาจตามคำสั่งกรมที่ดินที่ 23/2513 ลงวันที่ 27 พ.ค.2513 เรื่อง จำหน่าย ส.ค.1 ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดิน
ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง ) จะเสนอถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้จำหน่าย ส.ค.1 เลขที่ 27 ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดิน ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เพื่อให้ที่ดินตกมาเป็นสมบัติของชาติต่อไป