กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ ชวนชาวบ้านหันหน้าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ปกปักรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า เอาไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษา หลังจากวันเดียว จับได้ 2 คดี พร้อมของกลางมีทั้งซากสัตว์ป่า และอาวุธปืน
วันนี้ (11 พ.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ ป้องกันและรักษาทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า อย่างเต็มที่ และให้ดำเนินเด็ดขาดต่อผู้ค้า และล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ
โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ รายงานเข้ามาว่า ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.สิทธิศักดิ์ ฉันสิมา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ทำหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่ 6 ศร.2 (ดงใหญ่)-ศร.11 (เนินสวรรค์) ร่วมกันตั้งจุดสกัดชั่วคราวบริเวณป่าองบะ พิกัด 0498236 E 1622456
พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 5008 กาญจนบุรี วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่พบกล่องโฟม รวมทั้งถังน้ำแข็ง และอื่นๆ อยู่เต็มกระบะ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาข้างต้น
ซึ่งจากการตรวจค้นพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 40 ตะกวดป่า น้ำหนักรวม 9.2 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในถังแช่น้ำแข็งสีส้ม เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายถาวร กาวิระเดช ชาว อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ผู้กระทำผิด พร้อมยึดรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นพาหนะ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อดำเนินคดี ในข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครองครองตะกวดป่า ลำดับที่ 40 ไว้โดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 17 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันเดียวกัน ตนได้รับรายงานจากนายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้จับกุมตัวนายมนัส แก้วมณี และ นายนพดล สุนทราลัย ชาวบ้านบ้านบนเขาแก่งเรียน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้ที่ป่าบ้านลำดวน พิกัดที่ 0505543 E 1592902 N
ของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก และอุปกรณ์อื่นๆ อีก 23 รายการ โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมปรากฏว่า นายนพดล สามารถวิ่งหลบหนีไปได้ แต่เปลี่ยนใจย้อนกลับเข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ในภายหลัง จึงหน้าที่จึงนำตัวบุคคลทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์
ดำเนินคดีในข้อหา เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานฯ กำหนด ตามมาตรา 20 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ร่วมกันนำอาวุธปืน เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 19 (7) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
และข้อหา มีอาวุธปืนเถื่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 7 ทวิ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ระวางโทษจำคุก 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 พันบาท ถึง 2 หมื่นบาท
นายนิพนธ์ เปิดเผยต่อว่า ขอฝากเตือนไปถึงกลุ่มบุคคลที่มีแผนจะเข้าไปล่าหรือซื้อสัตว์ป่าว่า ปัจจุบันกฎหมายอุทยานฯ ฉบับใหม่นั้นมีบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดรุนแรงมาก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาแล้วหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบุคคลในพื้นที่ทั้งสิ้น
ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ของเราได้ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ไม่สามารถละเว้นได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 คดี จะเป็นคดีสุดท้าย และขอให้ชาวบ้านในพื้นที่หันหน้ามาร่วมกันปกปักรักษา ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าทุกชนิดเอาไว้เพื่อให้เด็กและเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป