เชียงราย - คืบหน้าจับนายหน้าทำบัตรหัวศูนย์คาอำเภอเชียงแสน..นอภ.สั่ง 2 ปลัดฯ สอบเสร็จ ระบุแก๊งนายหน้าวางแผนซับซ้อน หลอกคนสวมสิทธิคนอื่นขอทำบัตรใหม่พอ จนท.ตีกลับ งัดบัตรปลอมให้แทน ขณะที่ ตร.พบทำเป็นขบวนการ สวมบัตรจากเมืองกาญจน์
วันนี้ (13 พ.ค.) นายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้นายศิริวุฒิ สงวนศักดิ์ - น.ส.สุวรรณี มั่งมี ปลัดอำเภอกลุ่มงานทะเบียนและบัตร อ.เชียงแสน ตรวจสอบกรณีตำรวจ สภ.เชียงแสน จับกุมนายบุญมา สุขมาก อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 262 หมู่ 14 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และนายสุพจน์ แซ่จ๋าว อายุ 51 ปี สารวัตรกำนัน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ดำเนินคดีข้อหาปลอมเอกสารราชการ ใช้เอกสารปลอม และปลอมบัตรประจำตัวประชาชน ภายในบริเวณที่ว่าการ อ.เชียงแสน เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นพบว่าที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลพาคนมาขอทำบัตรประจำตัวประชาชนที่ขึ้นต้นตัวเลข 13 หลักด้วยเลข 0 หรือบัตรหัวศูนย์ ณ ที่ว่าการ อ.เชียงแสน ตามขั้นตอนจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนก็ขอตรวจเอกสาร ดูหมายเลขบัตร จากนั้นก็จะมีการสแกนลายนิ้วมือ ถ่ายภาพใบหน้าโดยอัตโนมัติแล้วให้นั่งรอ ระหว่างนั้นก็จะมีการประมวลผลตามเกณฑ์ของกรมการปกครองว่าจะสามารถออกบัตรใหม่ให้ได้หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้พบว่าคนที่ขอทำบัตรเคยมีบัตรหัวศูนย์อยู่แล้ว และเมื่อสอบปากคำเพิ่มเติมก็ระบุว่าเคยได้รับสัญชาติไทยที่ จ.นครพนม มาแล้วด้วย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งกลับไปว่าไม่สามารถทำบัตรใหม่ให้ได้ เพราะต้องให้นำหลักฐานและพยานจากต้นทางมาพิสูจน์เพิ่มเติม คนที่มาขอทำบัตรก็กลับออกไป จากนั้นกลุ่มคนที่รออยู่ด้านนอกอาคารที่ว่าการอำเภอฯ ก็นำบัตรที่จัดทำขึ้นเองมามอบให้กับเหยื่ออ้างว่าทำบัตรให้เสร็จแล้ว โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ระบุว่า หลังจากตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็พบว่ามีการใช้เอกสารปลอมทำด้วยมือซึ่งเหมือนจริงมาก แต่แตกต่างเอกสารของทางราชการที่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์หมด แต่ก็มีข้อพิรุธตรงที่ลักษณะของบุคคลที่มาทำบัตรกับภาพในบัตรจะไม่เหมือนกัน เพราะเป็นการถ่ายภาพเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะพามาที่ว่าการอำเภอ เช่น เสื้อผ้า ทรงผม ฯลฯ แต่ก็ทำให้เหยื่อที่ไม่รู้เท่าทันหลงเชื่อว่าได้ผ่านกระบวนการของเจ้าหน้าที่แล้ว
พ.ต.ท.กิตติภูมิ กันจินะ สว.สส.สภ.เชียงแสน กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วพบมีการทำเป็นขบวนการ โดยมีการทำบัตรและสวมบัตรประชาชนปลอมมาจาก จ.กาญจนบุรี ซึ่งทางตำรวจกำลังขยายผลไปถึงแหล่งต้นตอของบัตรดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงถึงผู้ต้องหาแล้ว และในตัวผู้ต้องหาบางคนยังพบเอกสารปลอมที่เตรียมจะนำไปหลอกเหยื่อรายต่อไปอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มคนเคยพาคนไปขอทำบัตรหัวศูนย์ปลอมที่ อ.เชียงแสน มาแล้ว 1 ครั้งได้เงินค่าจ้างรายละ 150,000 บาท แต่ฝ่ายปกครองพบพิรุธของคนที่มาขอทำบัตรจึงได้แจ้งตำรวจวางแผนจับกุมในครั้งที่ 2 โดยได้จับกุมนายบุญมาขณะกำลังเดินไปยังอาคารที่ว่าการ อ.เชียงแสน ตรวจสพบเอกสาร-ภาพถ่ายที่เตรียมจะพาคนไปทำบัตรหัวศูนย์หลายชุด และนายบุญมาได้ให้การซัดทอดไปถึงนายสุพจน์ว่าร่วมกันพาเหยื่อไปทำบัตรดังกล่าว โดยนายบุญมาอ้างว่าได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท ส่วนนายสุพจน์ได้ 40,000 บาท แต่นายสุพจน์ให้การปฏิเสธว่าเป็นเพียงคนประสานงาน และเมื่อตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่าไม่สามารถทำได้จึงนำเอกสารไปเก็บไว้ในรถ ทั้งยังตักเตือนนายบุญมาไม่ให้ทำอีก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางนายอำเภอเชียงแสนได้แจ้งเรื่องให้ทางกำนัน ต.บ้านแซว และผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ปลดนายสุพจน์ออกจากตำแหน่งสารวัตรกำนันแล้ว และให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะนี้นายสุพจน์ไม่ให้การใดๆ โดยขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น รวมทั้งได้ประกันตัวออกไปสู้คดีแล้ว