xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยพญาเสือตรวจสอบการลักลอบแปรรูปไม้ พร้อมอุปกรณ์ในวัดดังเมืองสุพรรณฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




สุพรรณบุรี - หน่วยพญาเสือ นำกำลังตรวจสอบการลักลอบแปรรูปไม้ พร้อมอุปกรณ์หลายรายการ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในพื้นที่อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมแจ้งความดำเนินคดีต่อรักษาการเจ้าอาวาส

วันนี้ (13 พ.ค.) นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าชุดพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สพ.1 เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหญ้าไทร จ.สุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่า ภายในวัดมีการลักลอบจัดตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่เข้าร่วมตรวจสอบ

ผลการตรวจสอบพบอุปกรณ์หลายรายการ ประกอบด้วย แท่นเลื่อยวงเดือนประกอบใบเลื่อยวงเดือน จำนวน 1 ตัว ขนาดแท่นกว้าง 170 เซนติเมตร ยาว 153 เซนติเมตร ใบเลื่อยเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 17 นิ้ว มีขี้เลื่อยจากการเลื่อยไม้ติดอยู่ในลักษณะขี้เลื่อยใหม่ พื้นโดยรอบโต๊ะเลื่อยวงเดือนพบขี้เลื่อยลักษณะใหม่เป็นจำนวนมาก โดยโต๊ะเลื่อยวงเดือนดังกล่าวเชื่อมต่อกับต้นกำลังเครื่องยนต์ยี่ห้อยันม่า 120 แรงม้า แท่นเลื่อยสายพานดัดแปลง จำนวน 1 ชุด ติดตั้งไว้กับรางเหล็กสำหรับวางไม้ ความยาว 160 เซนติเมตร ความกว้าง 100 เซนติเมตร ความสูง 227 เซนติเมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินยี่ห้อฮอนด้า รุ่น GX270CC ขนาด 9 แรงม้า และไม้หวงห้ามแปรรูป จำนวน 2,779 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 13.31 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐประมาณ 260,000 บาท

โดยเจ้าหน้าที่ได้พบกับพระขวัญชัย ซึ่งแสดงตัวเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ได้ให้ถ้อยคำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่า อุปกรณ์แปรรูปไม้ทั้งหมดที่ติดตั้งถาวรภายในโกดังหลังที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบนั้น อาตมา เป็นผู้จัดตั้งขึ้นเพื่อไว้สำหรับแปรรูปไม้ท่อนโดยเฉพาะ เพื่อเตรียมการจะสร้างที่พักสำหรับพระสงฆ์ ซึ่งไม้ท่อนที่นำมาแปรรูปนั้นพระขวัญชัย อ้างว่า ได้รับบริจาคมาจากชาวบ้าน

นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าชุดพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) เปิดเผยต่อว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันลงความเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของ พระขวัญชัย มีพฤติกรรมในการจัดตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ดังนั้น การกระทำของพระขวัญชัย จึงเป็นการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2584 และพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 ดังนี้

1) ฐาน ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ ตามมาตรา 48 และมาตรา 73 วรรคสอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
2) ฐาน ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งโรงงานแปรรูปไม้ ตามมาตรา 48 และมาตรา 73 วรรคสอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
3) ฐาน ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดมีไม้สักแปรรูปไม่ว่าจำนวนเท่าใดไว้ในครอบครอง หรือมีไม้แปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 48 และมาตรา 73 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484ย
4) ฐาน มี ผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 4 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2445

พนักงานเจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ จึงได้ร่วมกันทำบันทึกเรื่องราว มอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สพ.1 (ด่านช้าง) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าไทร เพื่อให้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดต่อไป
















กำลังโหลดความคิดเห็น