xs
xsm
sm
md
lg

รถตู้นำเที่ยวเชียงใหม่ตกงานดิ้นเปิดท้ายขายไอศกรีม-ข้าวแกงสู้โควิด แม้หลายรายยอมแพ้ปล่อยรถโดนยึดแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ลุงขับรถตู้นำเที่ยวเชียงใหม่ตกงานหลายเดือนจากพิษโควิด-19 ดิ้นรนเปิดท้ายขายไอศกรีมหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านและผ่อนรถ ขณะที่เพื่อนร่วมอาชีพเผชิญชะตากรรมเดียวกันผันตัวขายข้าวราดแกงและอาหารตามสั่งหารายได้เลี้ยงทีมงาน


รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติชาวจีนที่เป็นตลาดหลักไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและบุคลากรที่เกี่ยวข้องอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากตกงาน โดยรถตู้รับจ้างนำเที่ยวถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งหลายรายจำยอมรับสภาพและปล่อยให้รถที่ยังมีภาระผ่อนชำระอยู่ต้องถูกไฟแนนซ์ยึดไป

อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีคนขับรถตู้นำเที่ยวอีกหลายคนที่พยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อฝ่าฟันให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ อย่างเช่นเจ้าของรถตู้รับจ้างนำเที่ยวคันหนึ่งที่ปรับเปลี่ยนรถตู้ของตัวเองเป็นร้านขายไอศกรีม โดยจอดเปิดท้ายขายอยู่ริมถนนเชียงใหม่-ลำพูน (สายเก่า) ช่วงจากสะพานนวรัฐไปก่อนจะถึงสะพานเหล็ก


จากการสอบถามทราบว่าเจ้าของรถตู้รายนี้คือ นายสุปรีชา หยางตั้งตระกูล อายุ 58 ปี เปิดเผยว่า ปกติมีอาชีพขับรถตู้รับจ้างนำเที่ยวให้นักท่องเที่ยวชาวจีน, มาเลเซีย, ไต้หวัน และสิงคโปร์

แต่ปรากฏว่านับตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตั้งแต่ช่วงปลาย ธ.ค. 62-ม.ค. 63 เริ่มไม่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการจนกระทั่งเป็นศูนย์ ส่งผลกระทบทำให้คนที่มีอาชีพขับรถตู้รับจ้างนำเที่ยวขาดรายได้และมีสภาพไม่ต่างจากคนตกงาน ในขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังคงอยู่ทั้งค่าบ้านและค่าผ่อนรถ ซึ่งหลายคนยอมรับสภาพและปล่อยให้รถตู้ที่ผ่อนถูกยึดไปเลย อย่างตนเองมีภาระผ่อนรถเดือนละประมาณ 20,000 บาท และค่าบ้านอีก รวมค่าใช้จ่ายเดือนละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท แต่ไม่ยอมแพ้จึงดิ้นรนหาอาชีพหารายได้ทดแทนด้วยการไปรับไอศกรีมมาเปิดท้ายรถตู้ขาย


ทั้งนี้ นายสุปรีชาบอกว่า ทุกวันจะขับรถตู้มาจอดเปิดขายไอศกรีมอยู่ที่ริมถนนบริเวณดังกล่าวตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น. จนถึงประมาณ 16.30 น. ขายถ้วยละ 15-30 บาท แต่ละวันมีรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือวันละประมาณ 200-300 บาทเท่านั้น ซึ่งที่จริงแล้วยังไม่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายที่มีอยู่

อย่างไรก็ตาม มองว่าในสถานการณ์เช่นนี้เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่ทำอาชีพขับรถตู้รับจ้างมานานหลายปี หากสามารถทำอะไรที่มีรายได้ก็ควรทำไว้ก่อน และอยากให้กำลังใจทุกคนให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปให้ได้


ขณะที่บริเวณเดียวกันกับจุดที่นายสุปรีชาเปิดท้ายขายไอศกรีม พบด้วยว่ามีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่นกันทำให้ต้องหยุดดำเนินธุรกิจนำเที่ยวชั่วคราวเนื่องจากไม่มีลูกค้าและผันตัวมาเปิดขายอาหารตามสั่ง, ข้าวราดแกง, ส้มตำ, ขนมหวานและน้ำผลไม้ปั่น โดยใช้พนักงานที่มีอยู่เดิมของบริษัทมาช่วยกันทำหน้าที่ตามความถนัด เพื่อให้ยังพอมีรายได้เป็นค่าใช้จ่ายให้แก่พนักงานที่ทางบริษัทยังคงดูแลอยู่


นางสาวสุภัทรา ลีลานุวิทย์ อายุ 30 ปี ผู้จัดการบริษัท กัปตันแวน ทราเวล ซึ่งนำพนักงานที่เป็นทั้งไกด์, คนขับรถตู้ และเจ้าหน้าที่ธุรการ ร่วมกันเปิดขายอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วง ม.ค. 63 เป็นต้นมารายได้จากการทำธุรกิจนำเที่ยวของบริษัทหายไป 100% เลยเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา ในขณะที่ทางบริษัทยังคงมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่ โดยเฉพาะการดูแลพนักงานที่มีประมาณ 10 คน จึงได้ปรึกษาหารือกันและเปิดขายอาหาร ขนมและเครื่องดื่มบริเวณพื้นที่ที่บริษัทเช่าทำสำนักงานและลานจอดรถตู้ โดยที่พนักงานแต่ละคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบตามความถนัดของแต่ละคน เช่น ทำครัว, ทำน้ำแข็งไส เป็นต้น


สำหรับรายได้จากการขายอาหาร ขนมและเครื่องดื่มนั้น นางสาวสุภัทราบอกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการทำธุรกิจนำเที่ยวแล้วแน่นอนว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าไม่มีรายได้เข้ามาเลยแม้แต่บาทเดียว และอย่างน้อยยังทำให้พอมีรายได้ใช้จ่ายเลี้ยงดูพนักงานได้บางส่วนก็ยังดี ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่เปิดขายมาได้รับผลตอบรับดีระดับหนึ่ง เพราะอาหารที่ขายราคาย่อมเยา เริ่มต้นที่ 25 บาท โดยเปิดขายทุกวันตั้งแต่ประมาณ 08.00-16.00 น.










กำลังโหลดความคิดเห็น