ชัยนาท - น้องสาวลุงแท็กซี่ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 จนได้รับการช่วยเหลือและมีผู้ใจบุญโอนเงินจำนวนมาก ออกมายืนยันทั้งน้ำตา พี่ชายไม่ใช่คนลวงโลก เป็นคนพูดจริงไม่ชอบการโกหก ห่วงพี่ชายหายตัว กลัวถูกคนอุ้มไปทำร้าย
วันนี้ (13 พ.ค.) จากกรณีเรื่องดรามาของ นายสิทธิชัย ใกล้ชิด อายุ 72 ปี โชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมน้ำตาว่าได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่ารถและค่าเช่าบ้าน จนมีคนใจบุญบริจาคเงินเข้าบัญชีกว่า 8 ล้านบาท แต่ต่อมาถูกเจ้าของอู่แท็กซี่ออกมาแฉว่า ลุงแท็กซี่เป็นคนลวงโลก ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครพบตัวหรือติดต่อกับลุงแท็กซี่ได้
จากการตรวจสอบ พบว่า ลุงแท็กซี่มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดชัยนาท ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำอยู่ที่ถนนพรหมประเสริฐ อ.เมือง จ.ชัยนาท พบกับหญิง อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของลุงแท็กซี่ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว โดยน้องสาวลุงแท็กซี่ ยืนยันว่าพี่ชายเป็นคนดี ไม่ได้โกหก หรือเป็นคนลวงโลก ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะมีนิสัยเหมือนบิดาที่เป็นนายทหารไม่ชอบการโกหก จะพูดจาคำไหนคำนั้น พี่ชายเคยทำงานขับรถให้แก่บริษัทใหญ่ แต่พออายุมาก ไม่มีคนจ้าง ก็หันมาขับแท็กซี่
โดยจะอาศัยอยู่บ้านเช่ากับลูกชายที่มีอาการทางประสาท และไม่ค่อยได้เดินทางกลับมาที่จังหวัดชัยนาท ครั้งล่าสุดที่ตนพบกับพี่ชาย เมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน พี่ชายขับรถแท็กซี่กลับมาที่ชัยนาท เพื่อร่วมงานทำบุญ 100 วันแม่ ยังบ่นให้ฟังว่า ขับแท็กซี่ไม่ค่อยได้ หารายได้ไม่พอให้ค่าเช่ารถ กลัวว่าเจ้าของอู่จะไม่ให้เช่ารถ และจะไม่มีอาชีพทำกิน
ส่วนเรื่องราวที่พี่ชายไปออกทีวี จนมีคนใจบุญบริจาคเงินให้กว่า 8 ล้านบาท ตนก็ทราบข่าวจากทีวีเท่านั้น และก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่ชาย แต่ทราบว่า ในช่วงนั้นหลังจากที่มีคนบริจาคเงินมาให้พี่ชาย กลับมีคนเข้าไปต่อว่า กล่าวหาว่าพี่ชายสร้างภาพ ทำให้พี่ชายเกิดอาการเครียดอย่างหนัก จนต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะความดันขึ้น และหมอตรวจพบว่าเป็นโรคไตระยะที่ 2 จากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อกับพี่ชายได้อีกเลย และยิ่งมาเป็นข่าวในช่วงนี้อีก ยิ่งเป็นห่วงมากและทุกข์ใจมาก กลัวว่าจะมีคนอุ้มตัวพี่ชายไปทำร้าย เพราะเห็นว่ามีเงินมาก จึงอยากให้พี่ชายติดต่อกลับมาให้ทราบข่าวคราวบ้าง หรือเดินทางกลับมาบ้านที่ชัยนาท