ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อดีตเชฟโรงแรมและร้านดังเชียงใหม่เจอพิษโควิด-19 ตกงานนานกว่า 2 เดือน ผันตัวเองทำร้านรถเข็นขายอาหารตามสั่งตระเวนเดินขายทั่วเมือง เผยหาหยิบยืมผสมเงินเยียวยา 5,000 บาทเอามาลงทุน เหตุไม่ชอบขอใครกินถึงเดือดร้อนแต่ไม่อยู่เฉย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Doi Harnphanijaroen” ได้โพสต์คลิปและภาพผู้ชายคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดเชฟกำลังปรุงอาหารกับกระทะที่อยู่บนร้านรถเข็น พร้อมระบุว่าผู้ชายคนดังกล่าวเป็นเชฟโรงแรมชื่อดัง แต่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องว่างงานมานานกว่า 2 เดือน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการรอคอยความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว จึงได้หารถเข็นมาทำเป็นร้านอาหารตามสั่งเดินตระเวนขายไปตามจุดต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้แชร์ต่อและเข้าไปแสดงความเห็นชื่นชมให้กำลังใจผู้ชายคนนี้จำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวที่สวมชุดเชฟเข็นรถขายอาหารตามสั่ง คือ นายศรีวรรณ สุขสบาย หรือ เชฟวรรณ อายุ 56ปี ซึ่งเปิดเผยว่า เดิมทำงานเป็นเชฟอาหารจีนอยู่ในโรงแรมชื่อดังของเชียงใหม่และจังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งร้านอาหารชื่อดังระดับภัตตาคาร มีประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี โดยล่าสุดเป็นเชฟให้แก่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่รับลูกค้าหลักเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเลย ทางร้านจึงต้องปิดชั่วคราวและตัวเองต้องว่างงานตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 63 เป็นต้นมา ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายต้องรับผิดชอบ ทั้งค่ากินอยู่และค่าเช่าบ้าน แต่ไม่อยากรอคอยความช่วยเหลืออย่างเดียว จึงได้พยายามดิ้นรนช่วยตัวเองด้วยการรวบรวมเงินทุนจากการหยิบยืมและเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่เพิ่งได้รับจากรัฐบาล นำไปซื้อรถเข็นมือสองมาซ่อมและใช้ฝีมือทำอาหารของตัวเอง เปิดร้านรถเข็นขายอาหารตามสั่ง ซึ่งเพิ่งเริ่มขายวันแรกเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63
โดยรายการอาหารที่ขาย ได้แก่ ข้าวไข่เจียว, ข้าวผัดกะเพรา, ข้าวผัดคะน้า, ข้าวผัด ราคา 25-30 บาท เพิ่มข้าวหรือไข่ดาว 5 บาท ราคาย่อมเยา ให้ลูกค้าสามารถซื้อกันได้อย่างสบายกระเป๋า เพราะทราบดีว่าในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ผู้คนต่างขาดรายได้เหมือนกันหมด แต่รับประกันเรื่องความสะอาดและรสชาติ ซึ่งหลังจากที่เปิดขายเบื้องต้นได้รับการตอบรับจากลูกดีพอสมควร
ส่วนจุดที่จะเข็นไปขายในช่วงแรกนี้จะเป็นย่านรอบๆ ตลาดเมืองใหม่เป็นหลัก เริ่มตั้งเวลาประมาณ 17.00 น.เป็นต้นไป เพราะมองว่าน่าจะมีลูกค้าใช้บริการ ขณะเดียวกันจะมีการเดินเข็นรถไปขายตามจุดต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจจะไปได้ไม่ไกลมากนัก เพราะรถเข็นที่ใช้อยู่ค่อนข้างเก่าทำให้เข็นค่อนข้างยาก และตัวเองอายุเริ่มเยอะแล้ว ออกขายเพียงคนเดียวเป็นหลัก ยกเว้นบางวันที่อาจจะมีลูกสาวกับลูกเขยที่อยู่ต่างอำเภอมาช่วยบ้าง
อย่างไรก็ตามจะพยายามดิ้นรนทำมาหากินช่วยเหลือตัวเองจนถึงที่สุด เพราะไม่ชอบขอใครกิน หากใครอยากจะช่วยเหลือ แค่ช่วยอุดหนุนกันก็พอใจแล้ว