ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - วันแรกเชียงใหม่ผ่อนปรนบางธุรกิจ พบร้านข้าวเปิดขายให้นั่งกินได้ดูเหมือนคึกคัก แต่ส่วนใหญ่ยังซื้อกลับบ้าน เจ้าของร้านดังเผยดีใจได้กลับมาเปิดขายแม้เข้มมาตรการป้องกัน หลังตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาขาดทุนยับแต่ไม่เข้าเกณฑ์เยียวยา
วันนี้ (3 พ.ค. 63) เป็นวันแรกที่ร้านอาหารต่างๆ เริ่มเปิดให้บริการรับประทานที่ร้านได้หลังจากที่ทางจังหวัดเชียงใหม่มีการผ่อนคลายมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม มีข้อกำหนดในทุกร้านต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมในการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด จากการสังเกตการณ์ที่ร้านตี๋น้อยโอชา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารชื่อดังต้นตำรับเมนูเด็ด “บะหมี่พระยาเทครัว” รวมทั้งขาหมูดับเบิ้ลแบล็ก, บะหมี่, เกี๊ยวกุ้ง, ลูกชิ้นปลา และหมูแดง พบว่าทางร้านได้เริ่มเปิดบริการขายอาหารและให้ลูกค้านั่งรับประทานที่ร้านได้แล้ว
โดยมีมาตรการเข้มงวดตามที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานเกี่ยวข้องกำหนด ทั้งการจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนเข้าร้าน, การจัดโต๊ะโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร และการเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด ขณะที่พนักงานของร้านสวมใส่หน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์ตลอดเวลาด้วย โดยเบื้องต้นดูเหมือนว่าจะมีลูกค้าเริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้น คาดว่าปัจจัยส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความรู้สึกที่ผ่อนคลายขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากกว่านั่งรับประทานที่ร้าน
นายนพดล ศิริพิทยกุล หรือ “เฮียตี๋น้อย” อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาเปิดร้านแบบให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานที่ร้านได้อีกครั้ง แม้ว่าทางร้านจะต้องมีภาระงานเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยนอกจากมาตรการหลักแล้วทางร้านยังได้เพิ่มมาตรการเสริมอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนมาใช้เครื่องปรุงแบบซองแทนแบบเดิมที่ใส่ภาชนะวางประจำแต่ละโต๊ะ, การบรรจุช้อนส้อมใส่ซองพลาสติกจัดเป็นชุด และตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้ง เป็นต้น เพื่อลดการสัมผัส ทำให้ร้านมีต้นทุนเพิ่มขึ้นพอสมควร แต่ก็ยินดี โดยพบว่าจากการที่ผ่อนปรนมาตรการลงทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายลงด้วยและมาใช้บริการมากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบกับช่วงก่อนหน้านี้ที่เปิดขายเฉพาะให้นำกลับไปรับประทาน อย่างไรก็ตาม พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะซื้อกลับมากกว่านั่งรับประทานที่ร้าน แต่รู้สึกได้ว่าลูกค้ามีความผ่อนคลายมากกว่า
ทั้งนี้ แม้ว่าลูกค้าดูเหมือนจะมีแนวโน้มกลับมาใช้บริการ แต่ยังต้องดูต่อไปอีกระยะหนึ่งว่าจะเป็นอย่างไร และอีกนานเท่าไรกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ เพราะในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 นั้นทางร้านจะมีลูกค้าหมุนเวียนใช้บริการแน่นและคึกคักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่หลังจากที่เกิดสถานการณ์ขึ้นทำให้ลูกค้าหดหายไปเกือบหมดซึ่งช่วงที่ต้องเปิดขายเฉพาะให้นำกลับไปรับประทานที่บ้านตลอดช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมานั้น ทางร้านมียอดขายเหลือเพียงประมาณ 10% เท่านั้น และแบกภาระขาดทุนอย่างหนัก แต่ว่าจำเป็นต้องยอมรับสภาพเพราะเป็นอาชีพและอย่างน้อยเมื่อเปิดร้านก็ทำให้ยังมีข้าวให้พนักงานกินแม้จะไม่มีรายได้
ส่วนมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากรัฐบาลนั้น ตัวเองไม่ได้รับเพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์ใดๆ เลย ทั้งที่ตัวเองได้รับความเดือดร้อนและเชื่อว่ามีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันนี้ โดยหากเป็นไปได้อยากให้ทางภาครัฐมีการสำรวจและพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมด้วย เบื้องต้นมองว่าถ้าไม่สามารถเยียวยาตามหลักเกณฑ์ที่มี อย่างน้อยน่าจะพิจารณาในเรื่องของการลดหย่อนหรืองดเก็บภาษีก็ได้ เพื่อให้สามารถนำเงินที่จะต้องจ่ายภาษีมาใช้ต่อชีวิตไปก่อน