เมื่อสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ประเทศไทยของเราเผชิญอยู่ มีความผ่อนคลายลง เพราะยอดผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ จึงทำให้รัฐบาลมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ลง อย่างเช่นมีการปลดล็อกให้ร้านอาหาร (ที่ไม่ใช่ร้านอาหารอยู่ในห้างสรรพสินค้า) สามารถทำการเปิดร้านขายอาหารให้ลูกค้าเข้ามานั่งรับประทานอาหารในร้านได้แล้ว โดยในวันที่ 3 พ.ค. นี้ เป็นวันแรกจึงทำให้มีร้านอาหารต่างๆ พากันจัดร้านกลับมาให้บริการในร้านแก่ลูกค้ากันอีกครั้ง และร่วมมือกันทำตามมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
จากการสอบถามไปยังร้านอาหารแต่ละแห่ง ก็เริ่มทำการกลับมาเปิดร้านให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานอาหารที่ร้านกันได้แล้ว อย่างเช่นที่ร้าน “83 Corner” ร้านอาหารโฮมเมดอาหารไทยและอาหารฝรั่ง ได้มีการจัดร้านใหม่ตั้งแต่เมื่อวาน โดยให้อยู่ในเงื่อนไขทางข้อบังคับของรัฐบาล มีการจัดโต๊ะเว้นระยะห่าง 1.5 เมตรขึ้นไป แล้วก็ให้นั่งรับประทานอาหารได้โต๊ะละ 1 คน และก็ได้ทำการลงทะเบียนกับทางศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรณีติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) จังหวัดนนทบุรี โดยทำคิวอาร์โค้ด เพื่อเป็นการลงทะเบียนแล้วนำมาติดที่หน้าร้าน เพื่อให้มั่นใจว่าทางร้านเปิดแล้วทางการสามารถมาตรวจสอบได้
“ทางร้านเรายังมีการทำแบบฟอร์มบันทึก รายชื่อลูกค้าที่มานั่งใช้บริการในร้าน เพื่อในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือเกิดอะไรก็ได้ ก็สามารถทำการตรวจสอบในแต่ละวันได้ว่า ในแต่ละวันมีลูกค้ามานั่งใช้บริการคือใครบ้าง เวลาไหน เป็นมาตรการป้องกันในระยะยาว” เจ้าของร้าน กล่าว
ในส่วนของทางร้าน ก็มีมาตรการในเรื่องของพนักงาน เรื่องของการให้บริการ ทั้งเรื่องของการแต่งกาย การใส่หน้ากากอนามัย การใส่face shield การใส่ถุงมือ แล้วก็ให้พนักงานทุกคนล้างมือตลอดเวลา แล้วก็จะให้พนักงานสัมผัสของที่จะให้แก่ลูกค้าให้น้อยที่สุด มีการใส่ถาดให้ลูกค้าหยิบ และแนะนำให้ลูกค้าสั่งอาหารจานเดียวรับประทาน แล้วทุกครั้งของการใช้บริการเสร็จจะใช้แอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดร้าน และโต๊ะอาหารที่เมื่อลูกค้าใช้บริการเสร็จทุกครั้งก็จะทำความสะอาดทันที
“ก่อนเปิดร้านในทุกๆ วัน ส่วนที่ลูกค้าจับต้อง หรือสัมผัสของลูกค้าที่เข้าออก จะทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อเห็นลูกค้าสัมผัสในจุดที่เป็นส่วนกลาง เช่นการเปิดประตู ลูกบิดประตู ทุกอย่างที่มีการสัมผัส ส่วนในห้องน้ำจะมีเจลล้างมือ และในทางเข้าออกทุกทางก็จะมีเจลแอลกอฮอล์ให้กดแล้ว แล้วก็จะมีป้ายบอกให้ลูกค้ากรุณาใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้าน และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่เราเตรียมไว้ให้ทุกจุด” เจ้าของร้าน บอก
เมื่อสอบถามว่าวันนี้เปิดให้บริการเป็นวันแรกมีลูกค้ามาใช้บริการบ้างหรือยัง ทางเจ้าของร้านตอบว่า “ก็ทยอยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการนั่งรับประทานอาหารที่ร้านบ้างแล้ว ก็เริ่มมีลูกค้าที่แบบว่ารู้สึกอึดอัดกับการที่ไม่ได้มาผ่อนคลาย ก็ได้มาที่ร้านเพราะว่าที่ร้านเราเป็นสวนก็มีธรรมชาติ ลูกค้าก็ได้มานั่งมองต้นไม้ ตากลมเย็นๆ ได้รับความเพลิดเพลิน ก็อาจจะเป็นอีกทางหนึ่งที่หลายๆ คนรู้สึกว่าลดความอัดอั้น ได้ทำอะไรนอกสถานที่ได้บ้าง”
แล้วนอกจากนอกร้านจะกลับมาเปิดให้บริการนั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้แล้ว ทางร้านยังมีบริการเดลิเวอรี่ให้บริการด้วย ทางร้านมีเมนูที่ทำเป็นเมนูประหยัด เป็นอาหารกล่องราคา 59 บาท ยังคงทำเมนูประหยัดที่มีความคุ้มค่าให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานกันอยู่ต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะมีความคลี่คลายมากขึ้น
ทางด้านร้าน “ครัวลับแล” ร้านอาหารไทยรสเลิศ ในวันนี้ได้ทำการเปิดให้บริการแก่ลูกค้ามากินเป็นวันแรก โดยทำการเปิดโต๊ะนั่งกินอาหารในโซนด้านนอก ส่วนในโซนห้องแอร์ยังไม่เปิดให้บริการ ซึ่งโซนโต๊ะนั่งด้านนอกได้มีการจัดโต๊ะอาหารให้มีระยะห่างตามที่รัฐฯ กำหนด แล้วพนักงานทุกคนก็ต้องทำการใส่หมวก ใส่ที่คลุมผม ใส่หน้ากากอนามัย และใส่face shield แล้วทางร้านก็ยังมีเจลล้างมือทุกจุดให้บริการแก่ลูกค้าทุกคนที่มารับประทานอาหาร และลูกค้าทุกคนก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยหากมารับประทานอาหารที่ร้าน
สำหรับเรื่องการทำความสะอาดทางร้านกล่าวว่า “ต่อให้ไม่มีคนที่ร้าน ทางร้านก็ทำความสะอาดทุกวัน ถูทุกวัน ล้างทำความสะอาดทุกอย่างเหมือนเดิมทุกวัน ใช้แอลกอฮอล์พ่นฆ่าเชื้อที่โต๊ะและเก้าอี้ ส่วนที่พื้นใช้เดตตอลทำความสะอาดตลอดเช่นกัน”
ทางร้านครัวลับแลนอกจากจะกลับมาเปิดให้บริการนั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้แล้ว ทางร้านยังมีให้บริการเดลิเวอรี่ โดยทำการไปส่งให้กับลูกค้าด้วยตัวเอง ในระยะทางที่อยู่ไม่ไกลจากร้านมากนักประมาณ 5 -10 กิโลเมตรจากร้าน ทางร้านจะไปส่งให้ฟรี แล้วก็ยังมีให้บริการสั่งผ่านทาง LINE MAN, GET FOOD, FOOD PANDA, GRAB FOOD
อีกทั้งยังมีร้าน “Penguin Eat Shabu” ร้านบุฟเฟต์ชาบูเลิศรส ที่ถึงแม้วันนี้จะยังไม่ได้เปิดให้บริการกินที่ร้าน แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดกินที่ร้าน โดยเตรียมวางแผนรับมือทั้งเรื่องความสะอาด ตั้งโต๊ะเว้นระยะห่าง เลือกขนาดหม้อให้เล็กลงสำหรับคนเดียว
นอกจากนี้ทางร้านยังทำฉากกั้นระหว่างโต๊ะที่ลูกค้าแต่ละคนนั่งด้วย เป็นการนั่งกินแบบคนละหม้อ คนละโต๊ะ แล้วเลือกเป็นฉากพลาสติกใส เพื่ออย่างน้อยให้ลูกค้ายังพอได้อารมณ์ของการมากินชาบูด้วยกัน
โดยร้าน “Penguin Eat Shabu” พร้อมเปิดให้บริการในวันอังคารที่ 5 พ.ค. นี้ และจะเปิดให้บริการแค่ 2 สาขา คือ สาขาอารีย์ และราชพฤกษ์ แล้วต้องทำการจองคิวล่วงหน้า Online Booking พร้อมกัน วันจันทร์นี้ เวลา 11.11 น. ผ่านทาง https://www.eventpop.me/e/8772/penguin-booking-table เพื่อสำหรับรอบรับประทาน ในวันที่ 5 - 8พ.ค. เปิดวันละ 4 รอบ โดยแบ่งเป็น 4 รอบ คือ รอบที่ 1 11.00 - 12.30 รอบที่ 2 13.00 - 14.30 รอบที่ 3 17.00 - 18.30 รอบที่ 4 19.00 - 20.30 และสำหรับราคาบุฟเฟต์ที่เปิดให้บริการ มีแค่ 2 ราคา คือ 459 บาท และ 659 บาท (ไม่รวมVAT)
ทางด้าน “ร้านกาแฟ สุขใจ Music House & Cafe'” ได้จัดบรรยากาศโต๊ะที่นั่งภายในร้านให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distance เพื่อให้พร้อมเปิดบริการนั่งภายในร้านได้
ตามที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้แถลงข่าวถึงการคลายล็อก 6 กิจการ/กิจกรรม หากพร้อมเปิดได้ 3 พ.ค. คือ ตลาด ร้านขายอาหาร (นอกห้าง) กิจการค้าปลีกส่ง กีฬา/สันทนาการ ร้านตัดผมเสริมสวย และอื่นๆ
ย้ำจะออกคู่มือมาตรฐานกลางให้ดำเนินการเหมือนกัน และมาตรการเสริมสำหรับแต่ละกิจการ เตรียมประเมิน 14 วัน หากทำได้ดี จ่อขยายเพิ่ม หากตัวเลขป่วยเพิ่มขึ้นจะกลับมาตึงเหมือนเดิม
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR