เปิดใจคุณตา “น้องปลายฝน” มั่นใจหลานสาวดับไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เพราะแฟนใหม่

ฉะเชิงเทรา - เปิดใจคุณตา “น้องปลายฝน” เชื่อหลานสาวผูกคอตัวเองในห้องพักไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือต้องการประชดลุงตู่ แต่น่าจะเกิดจากความแค้นใจจากการกระทำของแฟนใหม่ ซ้ำไม่รู้ว่าตัวเองได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลแล้ว เล็งหาช่องดำเนินการตามกฎหมาย

วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายพร อ่ำสาริกา ซึ่งเป็นตาที่เลี้ยง น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา สาว รปภ. ที่ตัดสินใจแขวนคอตัวเองภายในห้องพักย่านบางแค กรุงเทพฯ จนเสียชีวิตเมื่อเช้ามืดวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากวาดภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมเขียนข้อความตัดพ้อถึงความทุกข์ยากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการไม่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาลถึงขั้นไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน

โดย นายพร เชื่อมั่นว่า สาเหตุที่ทำให้หลานสาวเลือกที่จะจบชีวิตของตนเอง เป็นเพราะยังไม่ทราบว่าได้รับเงินช่วยเหลือ จำนวน 5 พันบาท จากรัฐบาล เนื่องจากแฟนใหม่ของหลานสาวที่เพิ่งครบหากันได้ประมาณ 4 เดือน ได้ยักยอกเงินไปให้โดยไม่บอกหลานสาว เนื่องจากเป็นคนที่ถือบัตรเอทีเอ็ม โดยได้นำเงินบางส่วนไปจ่ายเป็นค่างวดรถจักรยานยนต์

ตลอดจนเงินค่าแรงจากการทำงานเป็น รปภ. ของหลานสาว พบว่าแฟนใหม่เป็นคนรับซองเงินค่าจ้าง เนื่องจากหลานสาวยังไม่มีบัญชีธนาคารที่บริษัทกำหนด เนื่องจากอยู่ในช่วงการปิดเมืองป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 จึงทำให้หลานสาวยังไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ และในแต่ละเดือนหลานสาวจะได้รับเพียงสัปดาห์ละ 2 พันบาทเท่านั้น

“ที่ผ่านมา น้องปลายฝน ไม่ทราบว่าตนเองได้เงินค่าจ้างครั้งละเท่าไรและถูกหักค่าชุดค่าเบิกล่วงหน้าไปเท่าไร จึงคิดว่าตัวเองมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ซึ่งหลานสาวได้โอนเงินมาให้เป็นค่านมให้ลูกรวม 4 ครั้ง โดยเป็นการโอนผ่านบัญชีของแฟนใหม่ จึงเชื่อว่าแฟนใหม่รายนี้น่าจะเป็นผู้ยักยอกเอาเงินไปจนทำให้หลานสาวเข้าใจผิดและก่อเหตุแขวนคอตาย”

นายพร ยังเผยอีกว่า ในเรื่องของการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของหลานสาวนั้น ที่ผ่านมาได้มีการปรึกษานักกฎหมายไว้บ้างแล้ว และจะรอให้การทำพิธีทางศาสนาแล้วเสร็จก่อน ซึ่งหากพบว่าแฟนใหม่ของหลานสาวได้ยักยอกเงินไปจริงก็คงต้องมีการดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดได้

ขณะที่ นางสาคร อ่ำสาลิกา ผู้เป็นยายบอกว่า น้องปลายฝน มักเล่าถึงปัญหาครอบครัวว่าแฟนเก่ามักบังคับให้ออกไปทำงานหาเงินเนื่องจากตัวเองไม่ได้ทำงานใดๆ ซ้ำยังติดยาเสพติดจนสุดท้ายต้องเลิกรากันไป และทิ้งลูกน้อยวัยเพียง 8 เดือนไว้ ซึ่งน้องปลายฝน หลังจากเลิกรากับแฟนเก่าได้ประมาณ 1 ปี ก็หันมาคบกับแฟนใหม่ได้ประมาณ 4 เดือน ก่อนพากันเดินทางไปทำงานเป็น รปภ.ในกรุงเทพฯ

และล่าสุดหลานสาวได้โทรศัพท์พูดคุยกับบุตรชายผ่านระบบวิดีโอคอลในสภาพมีผ้าปิดบังใบหน้า และก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนเองยังได้ทักท้วงไปว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกระทั่งหลานสาวยุติการพูดคุย จากนั้นจึงทราบข่าวร้ายดังกล่าว