ฉะเชิงเทรา - สลด! รปภ.สาวเครียดโควิด-19 การเมือง แขวนคอตัวเองดับ หลังวาดภาพ “ลุงตู่” พร้อมข้อความระบายความทุกข์จากการประกาศเคอร์ฟิว รายได้ไม่พอซื้อนมลูก ผู้เป็นลุงเผยไม่รู้หลานสาวฝักใฝ่การเมือง แต่เคยห้ามไม่ให้รับเงินจากรัฐบาล หวั่นได้หน้า อยู่นาน
วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยวัดแสนภูดาษ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากมูลนิธิการกุศล ว่าได้เคลื่อนย้ายร่างของ น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา อายุ 19 ปี อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ตัดสินใจปลิดชีพตนเองด้วยการแขวนคอในห้องพัก หลังได้วาดภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมเขียนข้อความระบายถึงความอัดอั้นตันใจในความทุกข์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รวมทั้งการประกาศมาตรการเคอร์ฟิว และการประกาศปิดเมืองเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ จนทำให้ตนเองมีรายได้ลดลง และไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายพร อ่ำสาริกา อายุ 69 ปี ชาว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นตาที่เลี้ยงดูผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่เด็ก พร้อมบอกว่าตนเองไม่เคยทราบมาก่อนว่าหลานสาวจะเป็นผู้ที่ฝักใฝ่ทางการเมือง เพียงแต่ที่ผ่านมา หลานสาวได้เคยโทรศัพท์มาบอกกับตนเองว่า ไม่ให้รับเงินสงเคราะห์คนชรา จำนวน 2,000 บาท จากรัฐบาล เพราะเกรงว่ารัฐบาลจะได้ผลงาน จนได้อยู่บริหารประเทศไปอีกนาน
พร้อมบอกอีกว่าก่อนหน้านี้ หลานสาวมีอาชีพรับจ้างส่งนมใน จ.ฉะเชิงเทรา แต่เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้ จึงมีอาการแพ้แดดและเป็นลมจากความเหนื่อยล้าจนต้องไปสมัครทำงานเป็น รปภ. ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางแค ตามการชักชวนของแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 4-5 เดือน และจะมีรายได้จากการทำงานสัปดาห์ละ 2,000-2,500 บาท
แต่เนื่องจากต้องถูกหักค่าชุดทำงานครั้งละ 1,000 บาท รวมทั้งยังถูกหักค่าหยุดงานเนื่องจากหลานสาวมักหยุดทำงานบ่อยครั้งจนทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย และต้องเบิกเงินล่วงหน้าจากบริษัท รปภ.วันละ 100-200 บาท ประกอบกับในระยะหลังหลานสาวมักบ่นอยากกลับบ้าน แต่เกรงว่าจะหางานทำไม่ได้ ตนเองจึงให้อดทนทำงานไปก่อนเพราะอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“พอมีเรื่องโรคโควิด -19 ทำให้หลานสาวยังกลับบ้านไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าทำร้ายตัวเองถึงขั้นนี้ ซึ่งวันนี้ยังคงดูแลลูกของหลานสาวที่มีอายุเพียง 8 เดือนอยู่เพราะพ่อแม่แยกทางกัน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยคิดว่าหลานสาวจะเคร่งเครียดในเรื่องการเมืองเช่นนี้ ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เชื่อว่าหลานสาวน่าจะดูข่าวในช่วงที่ทำงานเป็น รปภ. มากจนเกินไปจึงทำให้เกิดเรื่องเศร้าขึ้น” นายพร กล่าว
