พระนครศรีอยุธยา - สุดโหด! หนุ่มใหญ่เรียกเพื่อนบ้านที่รู้จักกันมาแต่เด็กออกมาเคลียร์ปัญหาคาใจ ก่อนยิง 3 นัดซ้อนดับคาที่ บริเวณหน้าบ้านตัวเอง ตำบลสำพะเนียง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากกรณีเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ทองดี วงศ์แสน รอง สว.(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 2 ตำบลสำพะเนียง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านแพรก ทราบชื่อคือ นายเสมา พุกกะ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 92 หมู่ที่ 2 ตำบลสำพะเนียง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนผู้ที่ก่อเหตุนั้นได้หลบหนีไป จากนั้นได้เดินทางมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ นายวิทยา เปาวิมาน
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (28 เม.ย.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรบ้านแพรก เพื่อมาติดตามคดี และทำการสอบสวน นายวิทยา เปาวิมาน อายุ 49 ปี ที่อยู่ 62/2 หมู่ที่ 2 ตำบลสำพะเนียง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ห้องสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.นฤดม มารศรี ผกก.สภ.บ้านแพรก และพนักงานสอบสวนร่วมกันสอบสวน ใช้เวลา 30 นาที จึงสอบสวนเสร็จ
พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนสั้นลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุน จำนวน 11 นัด ปลอกกระสุนปืน จำนวน 3 นัด บรรจุอยู่ในลูกโม่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 สีน้ำเงินขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลที่ผู้ต้องหาใช้ขณะก่อเหตุ เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จากนั้นได้เดินทางไปที่บริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นหน้าบ้านของผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาที่อยู่ติดกัน พบกองเลือดจำนวนมากอยู่บริเวณฟุตปาธหน้าบ้านของผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า จากการสอบสวน นายวิทยา ผู้ต้องหา เบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุ อ้างว่าเกิดจากความเมา และบันดานโทสะ ส่วนผู้ต้องหาอยู่บ้านติดกับผู้เสียชีวิต และ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้านพัก และตนเองได้ยินเสียงผู้เสียชีวิตบิดคันเร่งรถเสียงดัง จึงได้เดินออกมาหาผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านริมถนน จากนั้นก็เกิดการโต้เถียงตนจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตบริเวณที่ศีรษะ 1 นัด และลำตัวอีกหลายนัด หลัังก่อเหตุแล้วหลบหนี ก่อนที่ช่วงเช้า นายวิทยา ผู้ต้องหาขอเข้ามอบตัวที่ สภ.บ้านแพรก
ทางด้าน น.ส.หทัยรัตน ดิษฐ์สังวรณ์ อายุ 42 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนและบุตร 2 คน นั่งสานพัดอยู่บริเวณใต้ถุนบ้านชั้นล่าง ได้มีนายเสมา พุกกะ สามีผู้เสียชีวิต ได้ขับรถจักรยานยนต์มาจะเลี้ยวเข้าบ้าน ได้มีนายวิทยา เปาวิมาน ผู้ต้องหา บ้านรั้วติดกันได้ตะโกนด่าว่าคำหยาบ เมื่อผู้เสียชีวิตกำลังเดินออกไปปิดประตูรั้วบ้าน
หลังจากนั้นตนได้ยินเสียงนายวิทยา พูดกับสามีตน ว่า “มึงมีอะไรกับกูไหม มึงจะทำไม” และผู้เสียชีวิตได้บอกว่า “พี่ มีอะไรกับผมไหมครับ” และทันใดนั้นตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด ตนจึงรีบวิ่งออกไปยืนมองนอกรั้วบ้าน พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่กับพื้นปูนฟุตปาธอยู่บริเวณหน้าบ้าน และตนเห็นนายวิทยา ใส่เสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีเข้ม ยืนอยู่ปลายเท้าของผู้เสียชีวิต ตนจึงได้ถามว่า “พี่ ยิงพี่หนึ่งทำไม”
หลังจากนั้น ผู้ต้องหาก็มองหน้าตน แล้วเดินเข้าบ้านไป ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน เรียกนางกุหลาบ พุกกะ มารดาของผู้เสียชีวิต ที่นอนอยู่บนบ้านออกมาช่วยผู้เสียชีวิต จากนั้นได้มีบุตรของตนที่อยู่ในบ้านรีบวิ่งออกมาพร้อมกับนางกุหลาบ เข้าไปประคองตัวผู้เสียชีวิต พบว่า ถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และที่ลำตัวอีกหลายนัด เพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงปืนก็รีบออกมาช่วย
จากนั้นได้มีรถกู้ภัยได้ช่วยนำตัวผู้เสียชีวิตส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านแพรก ต่อมาแพทย์ได้ทำการรักษาอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง และเสียชีวิตลง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนไม่เข้าใจว่าทำไมนายวิทยา ถึงได้ก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนบ้านกันมาและเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้ก่อเหตุเวลาเมามักจะ ตะโกนด่าตนเองและสามีอยู่เป็นประจำแต่ ก็ไม่เคยตอบโต้ ส่วนสามีเป็นคนดี และยังเป็นประธานชุมชน หมู่ที่ 2 ตำบลสำพะเนียง เพื่อนบ้านรักใคร่ทุกคน ตนและครอบครัวจะไม่ให้อภัยและอโหสิกรรมต่อนายวิทยา ผู้ต้องหาโดยเด็ดขาด ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย