ราชบุรี - เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวอาปืนโหด อดีตเป็นพนักงานธนาคาร ยิงหลานสาว พร้อมสามีดับ ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงด่าของแม่ผู้ตาย
จากคดีที่นายมนต์สงบ นาเครือ อายุ 52 ปี และ น.ส.นงลักษณ์ แก้วใส่เงิน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 9 ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 2 สามีภรรยา ถูกนายเชษฐ์ อายุ 49 ปี มีศักดิ์เป็นอาของทั้งคู่ ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงหลานตาย 2 ศพ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 เม.ย.63 บริเวณซอยหรรษา ริมถนนสายเลียบชายคลองครัวต้นตาล หมู่ 9 ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม ส่วนปมเหตุเกิดจากการทะเลาะเรื่องทวงหนี้กันนั้น
ความคืบหน้าของคดีหลังเกิดเหตุในช่วงกลางดึก นายเชษฐ์ ได้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมอบตัว จนเช้าก็ยังไร้วี่แวว กระทั่งเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย.63 ศาลจังหวัดราชบุรี ได้อนุมัติหมายจับ นายเชษฐ์ หรือนายวรพล หรือนายพิเชษฐ์ หรือฉายาเสี่ยบอย จำปาโชติวรกุล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/3 หมู่ 9 ต.บ้านฆ้อง มือปืนที่ก่อเหตุ อดีตเป็นพนักงานธนาคาร ปัจจุบันประอาชีพธุรกิจส่วนตัว ซึ่งทราบว่าหนีไปกบดานอยู่บ้านภรรยาที่เขต จ.กาญจนบุรี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.จว.ราชบุรี และชุดสืบสวน สภ.โพธาราม จึงนำกลังไปจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก 19
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวรพล หรือพิเชษฐ์ กับนายมนต์สงบ ผู้ตายมีเรื่องบาดหมางกันมานาน เรื่องการจอดรถ การขับรถเข้าซอยบ้านซึ่งมีช่องทางแคบ ร้านของผู้ตายก็อยู่ช่วงต้นซอย และทะเลาะผิดใจกันเรื่องส่วนตัวคือผู้ตายยืมเงินแล้วยังไม่ใช้ กระทั่งวันเกิดเหตุทั้งคู่พบหน้ากันแล้วมีปากเสียงกันอีก นายวรพล จอดรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีฟ้า ทะเบียน กน 7262 ราชบุรี ไว้ฝั่งตรงข้ามปากซอย
จากนั้นเดินข้ามจะมาบ้านนายมนต์สงบ ขณะเดียวกัน นายมนต์สงบ เดินออกจากบ้านในมือถือมีดพกไปด้วย พร้อมกับน.ส.นงลักษณ์ ภรรยาอุ้มลูกสาวเดินตามไป ถึงจุดเกิดเหตุก็มีปากเสียงกัน นายมนต์สงบ ใช้มีดพกจะแทงนายวรพล จึงชักอาวุธปืนที่พกที่เอวออกมาจ่อจะยิงนายมนต์สงบจังหวะนั้น น.ส.นงลักษณ์ เข้ามาช่วยแย่งปืนนายวรพล จึงเหนี่ยวไกยิงนายมนต์สงบ ล้มลง และหันปากกระบอกปืนจ่อยิง น.ส.นงลักษณ์ โดนอกซ้ายและแขนซ้าย ส่วนลูกสาวใช้แขนขวาอุ้มอยู่จึงไม่ถูกลูกหลง และ น.ส.ลักษณ์ วิ่งหนีไปล้มลง ทำให้เสียชีวิต
จากนั้นเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม พร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และชุดปราบปราม นำตัวนายวรพล หรือพิเชษฐ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่เกิดเหตุปากซอยหรรษา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษอาวุธครบมือควบคุมตัวอย่างแน่นหนา ที่จุดเกิดเหตุมีญาติๆ ของผู้ตายทั้งคู่และเป็นญาติของมือปืนด้วย พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งมารอดูการทำแผน พร้อมกับตะโกนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “ไอ้เชษฐ์มึงทำอย่างนี้ได้ยังไง” เนื่องจากผู้ตายมีลูกยังเล็กถึง 2 คน ต้องกำพร้าพ่อแม่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหานายวรพล หรือพิเชษฐ์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนละเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็น ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างบันดาลโทสะ และพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เร่งสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป