ประจวบคีรีขันธ์ - สาวลาวกลับจากทำบุญ ขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยดูมือถือไปด้วย สุดท้ายรถพุ่งชนท้ายรถ 10 ล้อที่กำลังวิ่งอยู่เสียชีวิตติดคาท้ายรถ ที่ปากน้ำปราณ
วันนี้ (28 เม.ย.) พ.ต.ต.ธนากร สินสุขภัทร สารวัตร (สอบสวน) ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถ 10 ล้อห้องเย็น บริเวณริมถนนปากน้ำปราณ-ปราณบุรี สาย 3168 กม.10 ม.2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.นฤพนธ์ วานิชนุเคราะห์ ผกก.สภ.ปากน้ำปราณ ทราบ แล้วเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงษ์ชะณัฐ สมจิตร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปากน้ำปราณ ทีมกู้ชีพเทศบาลปากน้ำปราณ และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถ 10 ล้อห้องเย็น ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 80-8257 ชุมพร มีนายไกรศักดิ์ บัวสอน ชาว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นคนขับรถยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ที่บริเวณท้ายรถด้านขวา พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน 1 กฒ 1568 ประจวบคีรีขันธ์ ชนอัดติดกับท้ายรถในสภาพที่รถยังตั้งอยู่ แต่รถพังเสียหายเกือบครึ่งคัน บนรถมีร่างของหญิงสาวคนขับเสียชีวิตอยู่คาซากรถ อายุประมาณ 20-25 ปี สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น สวมเสื้อลายสีชมพูคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีแดง สภาพศพหงายหลังพับกับเบาะนั่ง พบบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าและลำตัว มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันดึงรถจักรยานยนต์ซึ่งขัดติดอยู่ท้ายรถออกโดยให้รถ 10 ล้อห้องเย็น ค่อยๆ ขับเดินหน้าจึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้สำเร็จ นำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลปราณบุรีอีกครั้ง
ต่อมา น.ส.เกตุมณี นวลจันทร์ ชาวบ้านปากน้ำปราณ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาว สัญชาติลาว ชื่อ Moe Sandar อายุ 25 ปี มีชื่อไทยว่า น้องทราย เพิ่งมาอยู่กับตนเองได้ประมาณ 1 ปีเศษ เพื่อช่วยงานดูแลเด็ก วันนี้น้องทราย ได้ขออนุญาตไปทำบุญที่ตัวเมืองปากน้ำปราณ ซึ่งคาดว่ากำลังจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักในซอยบุญช่วย ซึ่งอยู่ห่างไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน รู้สึกตกใจและสงสารอย่างมาก เพราะน้องทรายเป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง เป็นที่รักของทุกคน
ด้าน นายไกรศักดิ์ บัวสอน คนขับรถ 10 ล้อห้องเย็น กล่าวว่า ตนไปส่งสินค้าในตัวเมืองปากน้ำปราณเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขับรถเปล่ากลับชุมพร ซึ่งตนไม่ได้ขับรถเร็ว เพราะระวังมากกลัวมีอุบัติเหตุ ประกอบกับส่งสินค้าเรียบร้อยทำให้ไม่ได้รีบอะไร เมื่อขับออกจากตัวเมืองปากน้ำปราณ ลักษณะถนนเป็นเนินสูงต่ำหลายเนินต่อเนื่องกัน โดยตนขับตามหลังรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมา สังเกตเห็นว่าคนขับกำลังใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ จึงได้ขับแซงมาแล้วกลับเข้าเลนซ้ายมือตามปกติ
แต่พอผ่านมาประมาณ 2 เนิน มองกระจกหลัง เห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพุ่งตรงมาอย่างเร็ว โดยไม่มีท่าทีจะลดความเร็ว ก่อนมีเสียงดังที่ท้ายรถ ตนจึงรีบจอดชิดซ้ายลงมาช่วยเหลือ แต่รถน้องผู้หญิงติดกับท้ายรถ และตนไม่สามารถดึงน้องออกมาได้ จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยกับตำรวจมาช่วยเหลือดังกล่าว รู้สึกสงสารอย่างมาก ยิ่งพอทราบจากญาติว่าเพิ่งกลับจากไปทำบุญมายิ่งสงสาร ตนไม่ได้อยากให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้เลย และตนไม่รู้จะช่วยน้องอย่างไร