xs
xsm
sm
md
lg

ทต.บัวบานเตรียมสร้างบ้านให้ครอบครัวเด็กแฝดแม่พิการอาศัยหลังเตาเผาศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - กองช่าง เทศบาลตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด สำรวจบ้านทรุดโทรมของหญิงม่ายวัย 50 ปี พิการทางสติปัญญา และลูกชายเด็กฝาแฝดวัย 14 ปี ที่อาศัยอยู่หลังป่าช้าใกล้เมรุเผาศพคนตาย ด้านนายกเทศมนตรีเผยเตรียมเงินฉุกเฉินสร้างบ้านให้ 1 หมื่นบาท


จากกรณีพบครอบครัวเด็กชายฝาแฝดอายุ 14 ปี ชาว ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อาศัยอยู่กับแม่พิการทางสติปัญญาในบ้านที่ทรุดโทรมติดกับเมรุเผาศพคนตาย สร้างความสลดใจแก่ผู้พบเห็น ชีวิตรันทดพ่อถูกฆ่าตาย เผาศพไปเกือบ 2 เดือน ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.) บริเวณด้านหลังเมรุสถานโนนบ้านเก่า หรือเมรุเผาศพคนตายป่าช้าบ้านตูม หมู่ 4 และหมู่ 19 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด นายสุพรรณ ภูบุญเติม นายกเทศมนตรีตำบลบัวบาน มอบหมายให้นายทวี ถาวงค์กลาง ผู้อำนวยการกองการเกษตรเทศบาลตำบลบัวบาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลตำบลบัวบาน สำรวจบริเวณบ้าน น.ส.บุญรบ ขันอาสา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 หญิงพิการทางสติปัญญา พร้อมบุตรชายฝาแฝดวัย 14 ปี คือ ด.ช.ธนพล และ ด.ช.ภัทรพล ภูนาชัย ซึ่งฐานะยากจน โดยสภาพตัวบ้านเป็นบ้านปูนหลังเล็กๆ ติดพื้น ก่อหยาบ สภาพเก่าทรุดโทรม ฝาผนังและเพิงหลังคาสังกะสี เต็มไปด้วยรูโหว่ ทั้งนี้เพื่อประมาณการก่อสร้าง


นายสุพรรณ ภูบุญเติม นายกเทศมนตรีตำบลบัวบาน กล่าวว่า ได้รับทราบปัญหาทางครอบครัว น.ส.บุญรบ มารดาเด็กชายฝาแฝดอายุ 14 ปีมาแต่ต้น ซึ่งเป็นครอบครัวฐานะยากจน ก่อนที่สามีคือ นายวรเชษฐ์ ภูนาชัย เสาหลักของครอบครัวถูกทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิตไปเกือบ 2 เดือน ที่ผ่านมาทราบว่า น.ส.บุญรบได้รับเบี้ยสวัสดิการผู้พิการทางสติปัญญาเดือนละ 800 บาทเท่านั้น หลังจากสามีเสียชีวิตไปทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ลำบากมากขึ้น

นายสุพรรณกล่าวอีกว่า ในส่วนของการช่วยเหลือครอบครัวนี้ เบื้องต้นทางเทศบาลตำบลบัวบานจะจัดงบฉุกเฉินจำนวน 10,000 บาท ช่วยเหลือสร้างห้องน้ำ และที่พักอาศัยให้ โดยนายทวี ถาวงค์กลาง ผู้อำนวยการกองการเกษตรฯ จะนำเครื่องเรือนและไม้มาสมทบในรูปแบบบริจาค สำหรับแรงงานช่างคาดว่าจะขอแรงเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลตำบลบัวบานและจิตอาสาร่วมด้วยช่วยกัน ตามโครงการคนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คาดว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างในเร็วๆ นี้


ด้าน ด.ช.ธนพล ภูนาชัย อายุ 14 ปี แฝดผู้พี่บอกว่า ตนกับน้องชายกำลังจะขึ้นชั้น ป.4 โรงเรียนชุมชนบ้านตูมวิทยาคาร บ้านหลังที่ตนอยู่อาศัยกับพ่อแม่หลังนี้ตนอยู่มาตั้งแต่เกิด ตอนเล็กๆ ได้มาหัดคลาน หัดเดินที่บริเวณหน้าเมรุเผาศพที่เป็นลานกว้าง พอโตขึ้นมาหน่อยก็หัดปั่นจักรยานรอบๆ เมรุ และบริเวณป่าช้าแห่งนี้ ด้วยความเคยชิน จึงไม่รู้สึกกลัว

แม้ตอนที่ชาวบ้านเอาศพมาเผา บางครั้งในเวลากลางคืนอาจจะได้กลิ่นเหม็นไหม้โชยออกมาจากเมรุบ้างก็ไม่รู้สึกกลัวเพราะเคยชิน


ขณะที่ ด.ช.ภัทรพล ภูนาชัย อายุ 14 ปี แฝดผู้น้องกล่าวว่า ถึงแม้ฐานะพ่อแม่และเราจะยากจน อยู่บ้านหลังเล็กๆ ทรุดโทรมติดป่าช้าและนอนอยู่ใกล้เมรุก็ไม่รู้สึกกลัว และไม่คิดน้อยใจว่าตัวเองมีปมด้อย เพราะยอมรับในสภาพที่ตนเองเป็นอยู่

นอกจากนี้ยังได้กำลังใจจากเพื่อนๆ และคุณครูในโรงเรียนที่คอยให้กำลังใจ และคอยช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งตนกับพี่ชายก็พยายามตั้งใจเรียน และอยู่เป็นเพื่อนแม่ ไม่หนีไปเที่ยวที่ไหน

อย่างไรก็ตาม ต้องกราบขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีหลายท่านที่จะเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวให้มีบ้านหลังใหม่ ต่อไปนี้ก็จะประพฤติตนเป็นเด็กดี และจะเป็นจิตอาสาช่วยเหลือสังคม เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจทุกคนที่มาให้ความช่วยเหลือครอบครัวตนในครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น