กาฬสินธุ์ - เด็กชายฝาแฝดอายุ 14 ปี ชาวยางตลาด กลายเป็นเด็กกำพร้า พ่อถูกคู่อริใช้ขวดเบียร์ตีหัวดับ ขณะที่แม่พิการทางสติปัญญาทำงานหารับจ้างไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านเผยฐานะยากจนแม้แต่งานศพไม่มีเงินจัด เพื่อนบ้านต้องลงขันช่วย ขณะที่ญาติกลัวตายฟรี เพราะคู่กรณีไม่มาเหลียวแล ยื่นหนังสือขอยุติธรรมช่วยเหลือ
วันนี้ (13 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางละมุล ภักดีนอก ผู้ใหญ่บ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ว่า ครอบครัวของ น.ส.บุญรบ ขันอาสา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 กำลังเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากนายวรเชษฐ์ ภูนาชัย อายุ 48 ปี สามีเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 63 ถูกคู่อริใช้ขวดเบียร์ตีที่ศีรษะ แพทย์ระบุเสียชีวิตเนื่องจากเลือดออกในเยื่อบุสมอง น.ส.บุญรบเองก็เป็นผู้พิการทางสติปัญญา และยังต้องเลี้ยงดูลูกชายฝาแฝด 2 คน คือ ด.ช.ธนพล และ ด.ช.ภัทรพล ภูนาชัย อายุ 14 ปี อีกด้วย
นายวรเชษฐ์ถูกคู่อริทำร้ายร่างกายจนตาย ผ่านมากว่า 1 เดือนยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือเงินช่วยเหลือจากคู่กรณี ทำให้ครอบครัว น.ส.บุญรบเดือดร้อน และตกเป็นภาระของญาติที่ต้องคอยให้ความช่วยเหลือค่ากินค่าอยู่ น.ส.บุญรบรับจ้างทำงานไม่ได้เนื่องจากเป็นผู้พิการทางสติปัญญาดังกล่าว ปัจจุบันยังชีพด้วยเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท และการช่วยเหลือของญาติตามอัตภาพเท่านั้น
หลังทราบเรื่อง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายสมนึก นันรัศมี อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 ซึ่งเป็นน้าของเด็กชายฝาแฝด นายสมนึกเล่าว่า ตนเป็นน้องเขยของนายวรเชษฐ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุเกิดที่หน้าเวทีหมอลำซิ่งที่เจ้าภาพงานอุปสมบทจ้างมาแสดงสมโภชกองบวชเมื่อคืนวันที่ 22 ก.พ. 63 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลบัวบานได้นำตัวนายวรเชษฐ์ผู้บาดเจ็บไปรักษาที่โรงพยาบาลยางตลาด แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวไปโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 63 โดยหมอวินิจฉัยว่าเลือดออกในเยื่อบุสมองดังกล่าว
นายสมนึกกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งความที่ สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 63 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาจับกุมตัวคู่กรณีที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันไปเนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจน ผู้ต้องหาได้รับสารภาพและขณะนี้ถูกดำเนินคดีในเรือนจำกาฬสินธุ์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจัดงานศพนายวรเชษฐ์นั้นไม่มีเงินในการจัดงานสวดศพ ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านสงสารจึงได้ประกาศเชิญชวนชาวบ้านร่วมบริจาคคนละเล็กละน้อยพอได้ค่าทำบุญถวายพระและเลี้ยงอาหารญาติพี่น้องตามอัตภาพ แต่ในส่วนของเงินเยียวยาหรือช่วยค่าปลงศพจากคู่กรณียังไม่มีเลย
ด้านนางวชิราภรณ์ นันรัศมี อายุ 46 ปี น้องสาวของนายวรเชษฐ์ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากนายวรเชษฐ์เสียชีวิตตนต้องรับภาระในการดูแล น.ส.บุญรบ พี่สะใภ้ ที่เป็นผู้พิการทางสติปัญญา และหลานชายฝาแฝด 2 คน ที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น ขณะที่ตนและนายสมนึก สามี ก็มีภาระที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว คือพ่อแม่ที่สูงอายุและบุตรชาย 2 คนอีกด้วย
สิ่งที่ตนเป็นห่วงที่สุดคืออนาคตของหลานชายฝาแฝด ที่ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรเนื่องจากกำพร้าพ่อและมีแม่ที่พิการทางสติปัญญา ทำงานหารับจ้างไม่ได้ มีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาทเท่านั้น
ประเด็นใหญ่ตอนนี้คือเป็นห่วงหลานชายฝาแฝดไม่มีทุนการศึกษา หรือเงินค่าใช้จ่ายไปโรงเรียน เท่าที่ทำได้ตอนนี้คือรวบรวมเอกสารไปขอความช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่สำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะได้รับการช่วยเหลือเมื่อไหร่ เพราะเอกสารบางรายการยังไม่ครบ เช่น บันทึกการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและใบชันสูตรศพ
“ทุกวันนี้จึงได้แต่อดทนรอ และเฝ้ารอความเห็นใจจากกระบวนการยุติธรรมว่าจะให้ความเมตตาครอบครัวหลานฝาแฝดอย่างไร หรือบังคับใช้กฎหมายให้คู่กรณีเยียวยาเมื่อไหร่ เพราะฉันสงสารหลานกำพร้าฝาแฝดที่กำพร้าพ่อและมีแม่พิการ จึงไม่อยากให้มีปมด้อยหรือเป็นเด็กมีปัญหาหากไม่ได้รับความช่วยเหลือ” นางวชิราภรณ์กล่าว