กาฬสินธุ์ - พบครอบครัวเด็กชายฝาแฝดอายุ 14 ปีชาวอำเภอยางตลาด อาศัยอยู่กับแม่พิการสติปัญญาในบ้านหลังเล็กทรุดโทรมติดกับเมรุเผาศพ สุดหดหู่ เผยชีวิตรันทดพ่อถูกฆ่าตาย เผาศพไปเกือบ 2 เดือนยังไม่ได้รับเงินเยียวยา ล่าสุดที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ รับปากช่วยเหลือ
ที่บริเวณด้านหลังเมรุสถาน หรือป่าช้าบ้านตูม หมู่ 4 และหมู่ 19 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษา น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงเกษตรฯ เข้าเยี่ยมครอบครัว น.ส.บุญรบ ขันอาสา อายุ 50 ปี หญิงพิการทางสติปัญญา พร้อมบุตรชายฝาแฝดวัย 14 ปี คือ ด.ช.ธนพล และ ด.ช.ภัทรพล ภูนาชัย ฐานะยากจน พักอาศัยอยู่ภายในบ้านปูนหลังเล็กๆ ติดพื้น ก่ออิฐอย่างหยาบ สภาพเก่าทรุดโทรม ฝาผนังและหลังคาสังกะสีเต็มไปด้วยรูโหว่ แทบไม่เหลือสภาพบ้าน
นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษา รมช.กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า จากการสอบถามญาติทราบว่า น.ส.บุญรบ เจ้าของบ้าน เป็นผู้พิการทางสติปัญญา เป็นหญิงม่ายลูกสองคือเด็กชายฝาแฝดวัย 14 ปี ส่วนสามีที่เคยเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวได้เสียชีวิตไปราว 2 เดือน เหตุจากถูกคู่อริใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 63 ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตเนื่องจากเลือดออกในเยื่อบุสมอง เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจากหน่วยงานใด ในขณะที่สภาพที่พักอาศัยและความเป็นอยู่ของสามแม่ลูกที่ได้มาเห็นกับตา สร้างความเศร้าสะเทือนใจให้แก่ตนเป็นอย่างมาก ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เพราะรู้สึกหดหู่ใจมาก
นางวันเพ็ญกล่าวเพิ่มเติมว่า นี่คือชีวิตจริงที่ตนได้มาพบมาเห็น น่าสงสารเห็นแล้วหดหู่ไปหมด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตนได้มอบเครื่องอุปโภคและบริโภค พร้อมเงินสดให้จำนวนหนึ่งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในส่วนของการช่วยเหลือในระยะยาวนั้นจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือโดยเร็ว สำหรับตนยินดีที่จะให้ความอุปการะเด็กชายฝาแฝดทั้ง 2 คน โดยเฉพาะการศึกษา ซึ่งจะได้มีการพูดคุยกับญาติของเด็กและผู้นำชุมชนอีกครั้งหนึ่งเพื่อสร้างโอกาสดีๆ ให้แก่เด็กที่จะเป็นอนาคตของประเทศชาติ
ด้านนางวชิราภรณ์ นันรัศมี อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 ญาติเด็กชายฝาแฝด กล่าวว่า น.ส.บุญรบเป็นบุคคลพิการทางสติปัญญา ทุกวันนี้ยังกินยาจิตเวช ไม่มีรายได้ การกินการอยู่ของสามคนแม่ลูกนั้นตนเป็นคนดูแลทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วงคืออนาคตของ ด.ช.ธนพล และ ด.ช.ภัทรพล ภูนาชัย หลานชายฝาแฝดทั้ง 2 คน ทั้งนี้ ต้องกราบขอบพระคุณนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มาให้ความช่วยเหลือในวันนี้และจะให้ความอุปการะหลานชายฝาแฝด โดยจะได้ปรึกษากับญาติและถามความสมัครใจของหลานด้วย
ส่วน น.ส.บุญรบ ผู้เป็นแม่ที่พิการทางสติปัญญานั้น ตนยังจะประคับประคองและช่วยเหลือดูแลต่อไปตามอัตภาพ ถือเป็นกรรมเป็นเวรร่วมกันมาแต่ชาติก่อน
ส่วนกรณีที่ น.ส.บุญรบและลูกฝาแฝดมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเมรุเผาศพคนตายนั้น เพราะฐานะยากจน ไม่มีบ้านเรือน แต่เดิมเป็นเถียงนาหลังเล็กๆ อยู่ติดกับป่าช้าและห่างจากเมรุเผาศพคนตายราว 30 เมตร ตั้งอยู่ในที่นาซึ่งเป็นที่ทำกินของครอบครัวตน พอ น.ส.บุญรบมาอยู่กินกับนายวรเชษฐ์ ภูนาชัย พี่ชายของตน จนกระทั่งมีลูกชายฝาแฝดด้วยกัน ก่อนที่นายวรเชษฐ์พ่อของเด็กจะถูกคู่อริทำร้ายถึงกับเสียชีวิตโดยที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจากใครเลย
“ตอนนี้ห่วงมากที่สุด คืออนาคตของหลานชาย แต่โชคดีที่มีคุณวันเพ็ญได้รับปากให้ความช่วยเหลือ จะประสานกับทางสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ติดตามเรื่องเงินเยียวยา และพวกเราดีใจมากที่ท่านจะขอรับอุปการะหลานชายฝาแฝดทั้ง 2 คน” นางวชิราภรณ์กล่าวในที่สุด
